''คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก'' สโลแกนนี้ ถึงแม้จะเป็นของ น้ำเมา ยี่ห้อหนึ่ง แต่ความหมายเข้ากับนักกีฬาไทยที่คว้าความสำเร็จระดับโลกอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะ "เจ้าแม็ก" ชัชวาล ขาวละออ นักเทควันโดทีมชาติไทย ที่โด่งดังที่สุดในบรรดาจอมเตะ
ทีมชาติทุกคนในตอนนี้ เขาเป็นนักเทควันโดเบอร์ 1 ของโลก จากการจัดอันดับล่าสุดของสหพันธ์เทควันโดโลก ส่วนในเมืองไทย รุ่นฟินเวต หรือ น.น. 54 กก. ยังไม่มีหน้าไหนเบียดขึ้นมายืนหัวแถวแทนที่ได้ตลอดหลายปี
ในช่วงปี พ.ศ. 2553 ขอบอกได้เลยว่า เอาผลงานการแข่งขันในเวทีนานาชาติมากางเปรียบเทียบกัน "เจ้าแม็ก" ถือว่าโดดเด่นที่สุด ทั้งเหรียญทอง เทควันโดชิงแชมป์เอเชีย ประเทศคาซัคสถาน ที่สามารถล้มแชมป์โลก จากเกาหลีใต้ ได้ในรอบ 8 คนสุดท้ายจนก้าวขึ้นไปซิวความสำเร็จ จวบจน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 นครกว่างโจว ประเทศจีน ยังย้ำแค้นจอมเตะแดนโสมขาว ที่ใครก็ยกให้เป็นเบอร์ 1 ของโลก ลงได้อย่างสุดยอด คว้าเหรียญทองให้คนไทยได้มีความสุข
เพียงเท่านี้ ชัชวาล ขาวละออ สามารถพิชิตรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยม สยามกีฬา อวอร์ดส์ ครั้งที่ 5 ได้อย่างน่ายกย่อง ซึ่งถือเป็นนักกีฬาเทควันโดคนแรกที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ หลังจากที่ทำได้แค่มีชื่อติด 1 ใน 3 คนสุดท้ายมาหลายปี
จอมเตะหนุ่มวัย 23 ปี ก้าวเดินบนเส้นทางเทควันโดได้เพราะความเจ็บปวด โดยตอนเป็นเด็กตัวเล็กในสมัยเรียนอยู่ชั้น ม.1 ที่โรงเรียน สวนกุหลาบรังสิต ตอนนั้น เจ้าแม็ก โดนเพื่อนแกล้งอยู่เป็นประจำ ทั้งตบ ทั้งต่อย เด็กหนุ่มในวัย 13 ปี ไม่มีทางสู้ ได้แต่เก็บความเจ็บปวดไว้ในใจคนเดียว เป็นจังหวะเดียวที่ช่วงนั้น "โดโด้" ยุทธพิชัย ชาญเลขา พระเอกหนุ่มจ่อแก้วกำลังโด่งดัง แถมยังเป็นอดีตนักเทควันโดทีมชาติ สร้างกระแสให้ศิลปะการป้องกันตัวชนิดนี้เป็นที่นิยม ทำให้ เจ้าแม็ก คิดอยากเรียน เทควันโด ยอมไปขอคุณแม่ นันทนา ขาวละออ ให้พาไปเรียน จนสำเร็จได้เรียนที่ สโมสร ทวีศิลป์ ของ "อ.เข้ม" ทวีศิลป์ คำนวณ ซึ่งถือเป็นค่ายเทควันโดที่มีชื่อเสียงใน จ.ปทุมธานี
"เจ้าแม็ก" อาจเรียนหนังสือไม่เก่งเหมือนพี่ชาย ที่เป็นคุณหมอ แต่ในเรื่องกีฬาเทควันโด เขาตั้งใจฝึกซ้อมทุกขั้นตอนอย่างจริงจัง บางครั้งเลิกเรียนเสร็จ เจ้าแม็ก ไม่ยอมกลับบ้านขอฝึกซ้อมต่อจนฝีเท้าพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ลงแข่งขันสนามไหนมักจะคว้าเหรียญกลับบ้านแทบทุกเวที และสามารถสร้างผลงานชิ้นโบแดงเวทีเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ปี 2542 จากนั้นรายการใหญ่ของเมืองไทย ชัชวาล สะกดคำว่าเหรียญทองเป็นอย่างเดียว เหรียญอื่นไม่เคยได้รับเลย ถ้าลงชิงชัยสนามไหน
เมื่อเวทีแดนสยามไม่มีใครสู้ โค้ช เช ยอง ซอก ผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย ได้นำไปร่วมฝึกซ้อมในทีมชาติ เจ้าแม็ก ได้แสดงฝีเท้า บวกความมุ่งมั่น ทุ่มเท ฝึกซ้อมอย่างจริงจังให้ เช ได้เห็น สร้างความประทับใจแก่โค้ชแดนอารีดังอย่างยิ่ง ไปแข่งขันรายการนานาชาติ ที่ไหน ถ้า ชัชวาล ร่างกายสมบูรณ์ เขาจะต้องติดเบอร์ 1 มีชื่อไปแข่งขันทุกรายการ และไม่เคยทำให้ โค้ช เช ผิดหวัง คว้าความสำเร็จมามากมาย จนกลายเป็นลูกรัก เช ยอง ซอก ไปแล้ว ซึ่ง โค้ช เช เคยกล่าวว่า นักกีฬาไทยที่เขาชื่นชอบ และประทับใจที่สุด มี 2 คน คือ "เจ้าแม็ก" และ "วิว" เยาวภา บูรพลชัย ที่ถ่ายทอดวิทยายุทธ์อะไรให้ไป ทั้ง 2 คนจะรับได้รวดเร็วมาก
ผลงานระดับนานาชาติ "เจ้าแม็ก" คว้ามาแล้วมากมาย แทบทุกรายการ จอมเตะเจ้าของฉายา "ไอ้ลิงลม" ซิวมาแทบทุกเหรียญ ทั้ง เหรียยเงิน ชิงแชมป์โลก ปี 2007, แชมป์เยาวชนเอเชีย 2003, แชมป์โคเรียโอเพ่น 2005, แชมป์เทควันโดกีฬามหาวิทยาลัยโลก (นอกมหกรรม) 2006, เหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัยโลก 2006, เหรียญทองซีเกมส์ ที่โคราช 2007, เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ปี 2010 แต่มีอยู่รายการเดียว ที่ ชัชวาล ยังไม่เคยได้ คือเหรียญโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งเขาเคยทำได้แค่เฉียดคว้าเหรียญรางวัล โดยผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ โอลิมปิกเกมส์ 2008 ประเทศ จีน แต่ไปแพ้จนชวดคว้าเหรียญอย่างน่าเสียดาย
นอกจากกีฬาเทควันโดที่กลายเป็นกีฬาสร้างชื่อเสียงให้ ชัชวาล ขาวละออ ที่สามารถทำรายได้จนฐานะเขามีกิน มีใช้ มีรถเก๋งคันงานขับ แต่ เจ้าแม็ก ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลชื่นชอบวัตถุมงคลเป็นพิเศษ จะเห็นได้ไม่ว่าจะเดินทางไปแข่งขันที่ใด ชัชวาล มักพกพาเครื่องรางของขลัง หรือวัตถุมงคลต่างๆ ติดตัวไปเป็นที่พึ่งทางใจเสมอ ไม่ว่าไปแข่งขันรายการใหญ่ เขาจะต้องบนบานไว้หลายแห่งมาก พอกลับไปเมืองไทยก็จะเตรียมแก้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ล่าสุด เอเชียนเกมส์ ชัชวาล บนไว้ถึง 9 วัด เริ่มจากองค์จตุคามรามเทพ วัดพุทไธศวรรย์, วัดบางกุฏีทอง, วัดท่าการ้อง, วัดสายไหม, วัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำ, ศาลพระพิฆเนศ สี่แยกรัชดาห้วยขวาง, พระบรมรูปทรงม้า และพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6
ความกลัวในวัยเด็กที่ยอมทนให้เพื่อนรังแก จนถึงวันหนึ่ง ความกลัวกลายเป็นความกล้า กล้าที่จะต่อสู้กับความกลัวที่ติดสมองมาตั้งแต่เด็กๆ จนสามารถเอาชนะมันได้ ตั้งใจฝึกซ้อมเทควันโด ต่อสู้กับศัตรูในชั้นเชิงของกีฬา ทำให้ ชัชวาล มีวันนี้ ซึ่งกีฬาเทควันโด ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ยอดจอมเตะวัย 23 ปี ค้นเจอตัวตนที่แท้จริง "เจ้าแม็ก" ยังชื่นชอบ การยิงปืน สิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆ อยากยิงปืนแม่นๆ มาตอนนี้ ชัชวาล สะสมปืนสวยๆ ไว้ 2-3 กระบอก โดยในแต่ละเดือนถ้าเขามีเวลาว่างเป็นต้องไปสนามฝึกซ้อมยิงปืน เรียกได้ว่า ความแม่นระดับน้องๆ ทีมชาติ ลั่นไก 10 นัดในระยะ 15 เมตร ไม่เคยหลุดเป้าวงกลมสีดำ
แต่กีฬายิงปืนยังถือเป็นความชอบที่อยากทำในตอนที่มีโอกาสเท่านั้น ซึ่ง ชัชวาล ไม่คิดที่จะเอาทางนี้ ถึงแม้การฝึกซ้อมจะทำผลงานเป็นที่น่าพอใจก็ตาม แต่พอเจอค่าลูกกระสุนในการใช้ฝึกซ้อมที่แพงพอสมควรเข้าไป แม็ก ถึงกับบอกว่า "ผมเล่นเทควันโดดีกว่า" เจ็บตัวแต่ไม่เสียตังค์..
เทควันโด-ยิงปืน นี่คือส่วนหนึ่งของชีวิตหนุ่มวัย 23 ปี ที่ชื่นชอบความท้าทาย แต่ความท้าทายของ "เจ้าแม็ก" ไม่ได้มีแค่นี้..ความเร็วจากเครื่องยนต์ของรถเก๋งคันงาม "นิสัน 200 เอสเอ็กซ์" ที่ ชัชวาล หลงใหลและรักษา ประดุจไข่ในหิน จากเครื่องเดิมๆ คงไม่ทำให้ไอ้หนุ่มนักเทควันโดทีมชาติสะใจในความเร็วเท่าที่ควร เขาเสาะหาเครื่องยนต์ที่เรียกว่าแรง เหยียบได้ดังใจมาตั้งแต่แทนเครื่องยนต์เก่า ซึ่ง เจ้าแม็ก ไปคว้าเอาเครื่องยนต์ 2 เจ มาใส่ พร้อมกับนำไปทดสอบที่สนาม แด็กซ์ หรือสนามทดสอบความเร็วรถยนต์ทางตรง ย่านปทุมธานี ในระยะ 402 เมตร เขาสามารถทำความเร็วได้ถึง 10 วินาที เรียกว่าแรงตามใจสั่ง และภายหลัง "เจ้าแม็ก" ออกมายอมรับว่า เขาไม่ได้ทดสอบความเร็วด้วยตัวเอง ให้เพื่อนขับแทน ซึ่งถึงแม้ เขาจะชื่นชอบรถแรง แต่ใจยังไม่แรงตามรถ ขอแค่มีของดีอยู่กับตัวเองก็สบายใจแล้ว
ชีวิตของลูกผู้ชาย คือการต่อสู้ แต่สำหรับ ชัชวาล การต่อสู้กับความท้าทายมันแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนมีมากกว่ากัน แต่สิ่งหนึ่งที่เขาแยกออกคือ เดินทางให้ถูกวิธี ใช้ความดีควบคุมสติ เพราะทั้งเทควันโด, ยิงปืน, รถยนต์ ถ้านำไปใช้ในทางไม่ดีจะส่งผลร้ายต่อตัวเอง และคนอื่น เช่น เป็นนักกีฬาเทควันโด รู้วิชาต่อสู้ ทำตัวเกเรรังแกคนอื่น หรือ ชอบยิงปืน เป็นคนอารมณ์ร้อนเกิดปัญหาขึ้นก็ควักปืนมายิง หรือแม้แต่ ขับรถซิ่งทำความรำคาญให้กับชาวบ้าน ทุกอย่างล้วนแต่ให้โทษ ถ้านำไปใช้ในทางร้าย แต่สำหรับ "เจ้าแม็ก'' เขากล่าวว่า "ผมเรียนเทควันโดเพราะต่อสู้กับความกลัว และสามารถเอาชนะมันได้ แถมให้ชีวิตที่ดีแก่ผม ส่วนยิงปืนคือสิ่งที่ผมชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ผมก็ไม่เคยพกปืนไปยังที่สาธารณะ ผมจะนำไปสนามฝึกซ้อมเท่านั้น และที่สำคัญคนมีปืนต้องใจเย็น ซึ่งผมเคยเจอเหตุการณ์สำคัญมาแล้วมากมายที่ทดสอบจิตใจผม และผมก็ไม่นำสิ่งนี้ไปใช้ ส่วนเรื่องรถยนต์ ผมชอบรถแต่ง แต่ไม่อยากลองความเร็ว ชีวิตผมยังมีค่า ถ้าทำไปแค่เสี้ยววินาทีก็หมดอนาคตได้"
ชัดเจน กับคำพูดของจอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่การกระทำ และ ชัชวาล ก็ทำให้เห็นแล้วว่า สิ่งที่ทำมีแต่เกิดแต่ประโยชน์ ไม่เคยมีข่าวในด้านลบ มีแต่ผลงานในทีมชาติทำให้คนไทยมีความสุข แถมที่สำคัญเขาทำประโยชน์ต่อสังคม ในการทำงานอาสา มูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งทุกคืนวันเสาร์หลังเสร็จสิ้นจากการฝึกซ้อม "เจ้าแม็ก" จะต้องไปบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมในย่านปทุมธานี ช่วยเหลือคนที่ประสบอุบัติเหตุ โดย ชัชวาล ยอมซื้อรถปิกอัพ ด้วยเงินตัวเอง นำมาตกแต่งติดอุปกรณ์สื่อสารหมดไปเกือบล้านบาท โดยที่เขายังไม่ได้เป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเต็มตัว แต่เขาก็ทำด้วยใจรัก จนสิ่งที่เขาทำ ได้รับการยอมรับจากมูลนิธิฯ จึงมอบรหัสฯ การเป็นเจ้าหน้าที่อย่างเต็มตัว
ถ้าท่านสังเกตจะเห็นว่า ทุกสิ่งที่ ชัชวาล ขาวละออ ทำมันเกิดขึ้นเพราะความกลัว เขาเรียนรู้การเอาชนะความกลัวด้วยความกล้า และเมื่อเอาชนะความกลัวในครั้งแรกได้ เขาก็จะกล้าที่จะเอาชนะได้ทุกๆ อย่าง จากกลัวผี เห็นภาพอุบัติเหตุไม่ได้ แทบเป็นลม มาเป็นอาสาสมัครมูลนิธิฯ ได้เห็นในสิ่งที่กลัว นานวันเข้ากลายเป็นความชิน แถมเกิดประโยชน์ต่อสังคม.. นี่แหละคือการเปลี่ยนชีวิตที่ยิ่งใหญ่
คุณลองถามตัวเองแล้วหรือยังว่า คุณกลัวอะไร..ถ้าคุณเอาชนะความกลัวได้ด้วยความกล้า.. คุณอาจเปลี่ยนชีวิตได้เหมือน ชัชวาล ขาวละออ
สกุลโอ๋ เรื่อง
ประวัติส่วนตัว ชัชวาล ขาวละออ
"แม็ก" นายชัชวาล ขาวละออ รุ่น ฟินเวต
วัน/เดือน/ปีเกิด 17 มกราคม 2531 อายุ 23 ปี น้ำหนัก 54 กก.
ส่วนสูง 169 ซม. เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ
ภูมิลำเนา ปทุมธานี
ประวัติการศึกษา
กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้น ปริญญาตรี ปีที่ 3 วิชาเอก วิทยุ-โทรทัศน์
คณะ นิเทศศาสตร์ สถานศึกษา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
บิดา ชื่อ นายวิจิตร ขาวละออ อายุ 58 ปี อาชีพ รับราชการ
มารดา ชื่อ นางนันทนา ขาวละออ อายุ 54 ปี อาชีพ รับราชการ
ผลงานระดับภายในประเทศ
- เหรียญทอง กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ณ จังหวัดเพชรบุรี ปี 2546
- เหรียญทอง กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ณ จังหวัดชัยภูมิ ปี 2548
- เหรียญทอง กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย ณ จังหวัดขอนแก่น
- เหรียญทอง เยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ปี 2542 ถึง ปี 2548 7 ปีซ้อน
- เหรียญเงิน เทควันโดประชาชนชิงแชมป์ประเทศไทย ปี 2548
- เหรียญทอง กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย ณ จังหวัดชลบุรี ปี 2548
- เหรียญทอง กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ณ จังหวัดลำปาง ปี 2549
ผลงานระดับนานาชาติ
- เหรียญทอง เยาวชน เทควันโด ครั้งที่ 2 ณ ประเทศเวียดนาม ปี 2546
- 8 คนสุดท้าย กีฬาเยาวชนชิงแชมป์โลก ณ ประเทศเกาหลีใต้ ปี 2547
- เหรียญทอง เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ณ ประเทศคาซัคสถาน ปี 2548
- เหรียญทอง โคเรีย โอเพ่น ณ ประเทศเกาหลีใต้ ปี 2548
- เหรียญเงิน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ปี 2548
- เหรียญทอง ชิงแชมป์เอเชีย ที่ กรุงเทพฯ 2006
- เหรียญทอง มหาวิทยาลัยโลก ที่ สเปน 2006
- เหรียญเงิน ชิงแชมป์โลก ที่ จีน 2007
- เหรียญทอง กีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 24 ณ ประเทศไทย
- เหรียญทอง ซีเกมส์ ที่ จ.นครราชสีมา 2007
- เหรียญทอง ยู.เอส. โอเพ่น ที่ นิวออร์ลีนส์ สหรัฐอเมริกา 2008
- เหรียญทองแดง กีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 25 ณ ประเทศเซอร์เบีย
- เหรียญทอง ชิงแชมป์เอเชีย ประเทศคาซัคสถาน 2010
- เหรียญทอง เอเชียนเกมส์ ที่ กว่างโจว ประเทศจีน 2010
- เหรียญทองแดง เยอรมัน โอเพ่น ที่ เยอรมัน 2011
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น