วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

Thai Fight 2011 67kg. Thailand qualifier

 Thai Fight 2011 67kg. Thailand qualifier bout between Sudsakorn Sor. Klinmee and Kem Sitsongpeenong from January 15th.






ThaiFight 2011




Thai Fight's first season has concluded with France's Fabio Pinca emerging as the tournament champion and raised his already high profile even higher than it already was. Thai Fight 2011 plans have been finalized and as many of you may already know by now the elimination tourneys have already been in progress.  This piece of new comes via Rob Cox's Muay Thai Focus site.
There will be 2 weight divisions - 67kg and 70kg.
There will be 8 men representing 8 different countries in each division.
  • The Thai representative for the 70kg division will be Buakaw Por Pramuk.
  • The Thai representative for the 67kg will be the winner of the Isuzu Tournament at 147lbs - The tournament concludes in April.
  • The 70kg and 67kg tournaments will be held on the same day.
The 3 fight dates are:
  • Sep 25 - Round 1 - 70kg x 4 fights (3 x 3 min) - 67kg x 4 fights (3 x 3 min)
  • Oct 24 - Round 2 - 70kg x 2 fights (3 x 3 min) - 67kg x 2 fights (3 x 3 min)
  • Nov 27 - Round 3 (FINAL) - 70kg x 1 fight (5 x 3 min) - 67kg x 1 fight (5 x 3 min)
Special Events for Thai Fight:
  • May 14 - France
  • July 16 or 23 - China
  • Dec 28 - Japan
Pretty exciting news and I look forward to seeing how the entire tournament will go down. I wonder if this second time around an American representative will be decided on.  For the past Thai Fight America's Kevin Ross was announced as the United States representative but was not able to participate due to commitments he had already made for the Isuzu 8-man tournament.

เสธ.วีปแนะ2ผู้ท้าชิงเก้าอี้พุ่งเป้าล่าทองอลป.2012


        "เสธ.วีป" พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ลั่นอยากได้ยิน "บิ๊กต้อม" ธนา กับ "บิ๊กอ้าย" พล.อ.บุญเลิศ 2 ผู้ท้าชิงนายกเสื้อกล้ามไทย ประกาศนโยบายมุ่งหน้าล่าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2012 เมืองผู้ดี เพราะเป็นเป้าหมายสูงสุด ที่คนไทยทุกคนอยากได้ ย้ำได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ต้องพึ่งตัวเองอย่าหวังว่าใครช่วย ขณะที่เรื่องอื่นไม่เป็นห่วงคณะกรรมการชุดเดิมทำไว้ดีแล้ว พร้อมปัดเชียร์ ธนา แต่สนับสนุนทุกคนที่อุทิศตัวเพื่อวงการมวยสากลสมัครเล่น


     ความเคลื่อนไหวเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นคนใหม่ แทน "เสธ.วีป" พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคม โดยมีผู้ประกาศตัวลงสมัครเลือกตั้ง 2 คน คือ "บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย และเหรัญญิกคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย กับ "บิ๊กอ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อดีตเลขาธิการสมาคมมวยสมัครเล่นในยุค พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
 
     ล่าสุด พล.อ.ทวีป นายใหญ่นักชกไทย 4 สมัย ซึ่งได้ประกาศลาออกอย่างเป็นทางการไปแล้วนั้น เปิดเผยว่า สมาคมฯ ยังไม่ได้กำหนดวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อทำการเลือกตั้งนายกคนใหม่ แต่จะมีขึ้นภายในเดือน มี.ค.นี้แน่นอน ส่วนวัน กับสถานที่ จะหารือผู้บริหารสมาคมฯ อีกที
 
     ทั้งนี้เท่าที่ทราบจากสื่อมวลชน มีเพียง นายธนา กับ พล.อ.บุญเลิศ ที่ชิงตำแหน่งกัน ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้มาหารืออะไรกับตน เพราะเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนอยู่แล้ว ส่วนจะมีคนอื่นมาลงสมัครเพิ่มอีกหรือไม่นั้นไม่ทราบ
 
     อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนไม่ได้สนับสนุนใคร รวมทั้งไม่ได้หนุนหลัง นายธนา ตามที่เป็นข่าว แต่จะสนับสนุนทุกคนที่เสียสละและพร้อมจะเข้ามาอุทิศตัวเพื่อวงการมวยสากลสมัครเล่น
 
     ส่วนเรื่องที่อยากจะฝากไว้สำหรับผู้มาเป็นนายกสมาคมฯ คนใหม่ มีเรื่องเดียวคือ การไล่ล่าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ลอนดอน โดยจากที่ติดตามการเปิดตัวของผู้สมัครทั้ง 2 คนแล้ว สิ่งที่ตนอยากได้ยินชัดๆ คือ การประกาศทำเหรียญทองให้กับนักมวยไทย ในลอนดอนเกมส์ ที่จะมีขึ้นในปีหน้า ขณะที่เรื่องอื่นตนไม่เป็นห่วงเพราะคณะกรรมการชุดเดิม ได้ดำเนินงานมาอย่างดีแล้ว
 
     "การได้เหรียญทองโอลิมปิกที่ลอนดอน คือเป้าหมายสูงสุด และเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการ ดังนั้นผู้ที่จะมาทำหน้าที่นายกสมาคมฯ จึงต้องมีแผนชัดเจนว่าจะทำอย่างไร และเตรียมตัวนักกีฬาอย่างไร ในช่วงเวลาที่เหลือ เพราะการไปให้ถึงจุดหมาย เป็นเรื่องยากมาก"
 
     พล.อ.ทวีป กล่าวด้วยว่า การจะบรรลุถึงเป้าหมายเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์นั้น ต้องเตรียมการอย่างดีด้วยตัวเอง อย่าหวังว่าใครจะมาช่วย และโดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีใครหน้าไหนยื่นมือมาช่วยได้ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับ สหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบา) นั้น คิดว่าหลังจากยุคของตนเองแล้วคงจะไม่มีปัญหา ถ้าไม่มีใครยุแยงและต่างฝ่ายต่างเปิดใจให้เป็นกลาง ซึ่งจะต้องมีความเป็นธรรมรวมทั้งมีน้ำใจนักกีฬา แต่ถ้ามีคนใจแคบอยู่ก็คงลำบาก
เครติด siamsport.com

Fight Club เขาทราย แกแล็คซี่( Khaosai Galaxy)

เขาทราย แกแล็คซี่  อดีตนักมวยแชมเปี้ยนโลกชาวไทย รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (115 ปอนด์) ของ สมาคมมวยโลก (WBA) เป็นแชมป์โลกคนที่ 9 ของไทย มีชื่อจริงว่า นายสุระ แสนคำ ได้รับสมญานามว่า "ซ้ายทะลวงไส้" เขาทราย แกแล็กซี่ ยังมีพี่ชายฝาแฝด ซึ่งเป็น อดีตแชมป์โลกเช่นเดียวกันคือ เขาค้อ แกแล็คซี่ หรือ นายวิโรจน์ แสนคำ อดีตแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวท WBA โดยมีระยะเวลาที่เป็นแชมป์โลกคู่กัน ซึ่งทำให้นับเป็นแชมป์โลกคู่แฝดรายแรกของโลกอีกด้วย

หลังครองตำแหน่งเขาทรายสามารถป้องกันตำแหน่งได้ถึง 19 ครั้งติดต่อกัน นับเป็นสถิติโลกสูงสุด ในรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวทถึงปัจจุบัน และเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 3 ในการป้องกันแชมป์โลกทุกรุ่นในขณะนั้น มีสถิติป้องกันตำแหน่งโดยชนะน็อค 16 ครั้ง ชนะคะแนนเพียง 3 ครั้ง และได้ประกาศแขวนนวมในฐานะ แชมป์โลกผู้ไม่เคยแพ้ใคร ตลอดระยะเวลาที่ครองตำแหน่ง 2,628 วัน หรือ 7 ปี 2 เดือน 30 วัน

ในปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) เขาทรายได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ "World Boxing Hall of Fame" จากสมาคมมวยโลก โดยได้รับการบรรจุชื่อในหอเกียรติยศนักมวยโลก ณ เมืองคานาสโตต้า มลรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยสถิติการชก 50 ครั้ง ชนะ 49 ครั้ง โดยชนะน็อคถึง 43 ครั้ง คิดเป็นสถิติชนะด้วยการน็อคเอ้าท์ถึง ร้อยละ 87.75 และเคยแพ้คะแนนเพียงครั้งเดียว การชนะน็อคถึง 43 ครั้ง ยังนับเป็นสถิติโลกสูงสุด ในรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (ซูเปอร์ฟลายเวท) จนถึงปัจจุบันอีกด้วย


เขาทรายเป็นบุตรของนายขัน แสนคำ และนางคำ แสนคำ เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 ที่หมู่บ้านเฉลียงลับ ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ จบการศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเฉลียงลับวิทยา ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนประสิทธิวิทยา และระดับอาชีวศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จากโรงเรียนเทคนิคเพชรบูรณ์


ด.ช.สุระ แสนคำ เริ่มหัดชกมวยไทยครั้งแรกกับ ครูปราการ วรศิริ ขณะมีอายุได้ 14 ปี ด้วยน้ำหนักตัว 40 ปอนด์ ขึ้นชกมวยไทยอาชีพครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2515 ใช้ชื่อว่า "ดาวเด่น เมืองศรีเทพ" โดยมี ครูมานะ พรหมประสิทธิ์ เป็นเทรนเนอร์ ตระเวนชกในจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดใกล้เคียง โดยมีปัญหาในการชกมวยไทยเนื่องจากเสียเปรียบความสูง ทำให้ต้องลดน้ำหนักมากเพื่อชกกับมวยรุ่นเล็กกว่า เป็นสาเหตุให้หลายครั้งหมดแรงไม่สามารถชกมวยไทยได้ดีเท่าที่ควร

ในการชกมวยไทยอาชีพครั้งสุดท้ายกับ กังสดาล ส.ประทีป ต้องคุมน้ำหนักเพื่อชกในพิกัดรุ่น 108 ปอนด์ ทั้งที่ขนาดร่างกายต้องอยู่รุ่น 118 ปอนด์ แต่เพราะตัวเตี้ยเสียเปรียบจึงต้องชกในรุ่นต่ำกว่าเพื่อให้ได้คู่ชกที่ความสูงใกล้เคียงกัน การลดน้ำหนักครั้งนั้นทำให้หมดแรงและแพ้คะแนนขาดลอย นับเป็นการชกที่เจ็บตัวที่สุดในชีวิต แม้จะมีปัญหาเรื่องความสูงและต้องลดน้ำหนักอยู่เสมอ แต่ก็ยังมีสถิติการชกมวยไทยดีพอสมควรเนื่องจากพลังหมัดที่หนักหน่วง จากการชกมวยไทยรวม 54 ครั้ง สามารถชนะ 43 ครั้ง (น็อค 30 ครั้ง) แพ้ 8 ครั้ง และเสมอ 3 ครั้ง


นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ (แชแม้)
หลังการชกกับ กังสดาล ส.ประทีป นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ (แชแม้) โปรโมเตอร์ชื่อดังที่ชักชวนให้มาชกที่กรุงเทพฯ ในชื่อ "เขาทราย วังชมภู" (ต่อมาเปลี่ยนชื่อหลังตามชื่อค่ายว่า "แกแล็คซี่" ซึ่งเป็นชื่อกิจการของนักธุรกิจชื่อดังคือ นายอมร อภิธนาคุณ) ได้สนับสนุนให้เขาทรายเปลี่ยนมาชกมวยสากลอาชีพ นับเป็นการเริ่มต้นตำนานแชมป์โลกของ เขาทราย แกแล็กซี่


ชีวิตการชก มวยไทย ของเขาทราย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนได้รับการปรามาส จากแฟนมวยว่า "เขาควาย" จึงเบนเข็มมาชกมวยสากล โดยฝึกมวยสากลจาก "ครูเฒ่า-ชนะ ทรัพย์แก้ว" และ "เกา คิม หลิน-ทวิช จาติกวณิช" และเมื่อเป็นแชมป์โลกเปลี่ยนมาเป็น "โกฮง-พงษ์ ถาวรวิวัฒน์บุตร"

เมื่อเปลี่ยนมาชกมวยสากลเขาทรายสามารถชนะน็อค ด้วยหมัดซ้ายติดต่อกัน 5 ครั้ง ชนะคะแนนอีก 1 ครั้ง เขาทรายมีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์เวทีราชดำเนินรุ่นแบนตั้มเวทกับศักดา ศักดิ์สุรีย์ แชมป์ในขณะนั้น เมื่อ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 ก่อนการชก ทุกฝ่ายมั่นใจว่าเขาทรายน่าจะเป็นฝ่ายชนะน็อคได้ไม่ยาก เพราะศักดาน้ำหนักเกินรุ่นแบนตั้มเวทไปมาก ถึงวันชั่งน้ำหนักยังต้องอบตัวและออกวิ่งกว่าจะทำน้ำหนักตามพิกัดได้ เมื่อขึ้นเวทีชกกันจริงๆ ปรากฏว่าเขาทรายเข้าไม่ติด ไม่สามารถใช้หมัดซ้ายชกศักดาได้จังๆเพราะเสียเปรียบช่วงชกมาก ศักดาใช้ช่วงชกที่ได้เปรียบชกทำคะแนนนำไปก่อนแม้จะอ่อนแรงในยกท้ายๆและถูกเขาทรายต่อยจนแตกทั้งสองคิ้ว เมื่อเขาทรายชกศักดาลงไปให้กรรมการนับสิบไม่ได้ ครบสิบยก ศักดาจึงเป็นฝ่ายชนะคะแนนไป

หลังจากชกแพ้ในครั้งนั้น นิวัฒน์ผู้จัดการจัดให้เขาทรายชกกับทสึกูยูกิ โตฟา นักมวยสากลชาวญี่ปุ่นเป็นการแก้หน้าในครั้งต่อมา ซึ่งเขาทรายเป็นฝ่ายชนะน็อคได้ในยกที่ 4 และในการชกครั้งต่อมาเขาทรายชนะน็อก ศักดิ์สมัย ช.ศิริรัตน์ ได้ครองแชมป์ แบนตั้มเวท เวทีมวยราชดำเนิน ที่ว่างอยู่เนื่องจากศักดาสละแชมป์ไป และนับจากชกชนะทสึกูยูกิ เขาทรายไม่เคยแพ้ใครอีกเลยจนได้ชิงแชมป์โลก

หลังได้ครองแชมป์แบนตั้มเวท ราชดำเนิน เขาทรายลดรุ่นลงมาชกในรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท สามารถชกชนะติดต่อกัน 17 ครั้ง โดยเป็นการชนะน็อคถึง 15 ครั้ง รวมทั้งชนะน็อค วิลลี่ เจนเซ่น (Willie Jensen) รองแชมป์โลกจูเนียร์แบนตั้มเวท ได้ขึ้นชิงแชมเปี้ยนโลก รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวทที่ว่างลง ของสมาคมมวยโลก(WBA) กับ ยูเซปีโอ เอสปีนัล (Eusebio Espinal) นักชกชาวโดมินิกัน ที่เวทีมวยราชดำเนิน และสามารถชนะน็อคได้ครองตำแหน่งแชมเปี้ยนโลก เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 และยังทำสถิติป้องกันแชมป์ได้ติดต่อกันถึง 19 ครั้ง มากที่สุด ในบรรดาแชมป์โลกชาวไทย และทวีปเอเชีย โดยทำลายสถิติเดิมของ ชาง จุง กู นักมวยสากลชาวเกาหลีใต้ ที่ป้องกันได้ 15 ครั้ง และเป็นสถิติโลก ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท (115 ปอนด์) ด้วย เทียบเท่ากับ ยูเซปิโอ เปรโดซ่า อดีตแชมป์โลก รุ่นเฟเธอร์เวท WBA ที่ทำสถิติป้องกันแชมป์เอาไว้ถึง 19 ครั้งเท่ากัน โดยเขาทรายทำสถิติการชกไว้ทั้งหมด 50 ครั้ง ชนะ 49 ครั้ง โดยชนะน็อกถึง 43 ครั้ง แพ้คะแนนเพียง 1 ครั้ง และในการป้องกันแชมป์ 19 ครั้ง เป็นการชนะน็อกถึง 16 ครั้ง มีเพียง 3 ครั้งที่ชนะคะแนน

เขาทราย แกแล็คซี่ นับว่าเป็นนักมวยที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล ในสมัยที่ยังชกมวยอยู่ ได้รับฉายาจากแฟนมวยว่า "ซ้ายทะลวงไส้" จากหมัดซ้ายที่หนักหน่วง และการชกลำตัวที่ยอดเยี่ยม เป็นนักมวยที่ไปชกป้องกันตำแหน่งนอกประเทศหลายครั้ง รวมทั้งเคยป้องกันกับนักมวยชาวไทยด้วยกัน คือ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ และแทบทุกครั้งของการชก เขาทรายจะได้รับชัยชนะอย่างงดงาม ความนิยมในตัวเขาทรายมีถึงขนาดที่ว่า เมื่อใดที่เขาทรายชก ถนนในกรุงเทพฯ จะว่าง เพราะทุกคนรีบกลับบ้านไปดูเขาทราย



พิธีมงคลสมรส  "ยูมิโกะ โอตะ"
หลังแขวนนวม เขาทรายออกอัลบั้มเพลงมาชุดหนึ่ง เพื่อเป็นการขอบคุณแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุน ชื่อชุด "ขอบคุณครับ" และมีพิธีมงคลสมรส กับหญิงสาวชาวญี่ปุ่น "ยูมิโกะ โอตะ" ที่พบกันในการป้องกันตำแหน่งที่นั่นโดยมี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีที่จัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 แต่ได้หย่าขาดกันในเวลาต่อมา ปัจจุบัน เขาทรายมีธุรกิจส่วนตัวมากมาย เช่น ร้านหมูกระทะ โต๊ะสนุกเกอร์ และรับงานแสดงในวงการบันเทิงในฐานะตัวประกอบเป็นครั้งคราวด้วย อาทิ มนต์รักลูกทุ่ง ทางช่อง 7 ในปี พ.ศ. 2538, นายขนมต้ม ทางช่องเดียวกัน ในปี พ.ศ. 2539 และ สุริโยไท ในปี พ.ศ. 2544 เป็นต้น

เขาทราย เป็นนักมวยที่ได้รับการกล่าวขานมาก จนอาจเรียกว่าเป็นนักกีฬาชาวไทยที่ได้รับเกียรติยศมากที่สุดก็ว่าได้ เช่น ได้รับรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมหลายครั้ง ได้รับการยกย่องจากหลายวงการไม่เฉพาะวงการกีฬา ได้รับการบรรจุชื่อในหอเกียรติยศ (Hall of Fame) ของ WBA ในปี พ.ศ. 2542, ในหอเกียรติยศในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กีฬาไทยของการกีฬาแห่งประเทศไทย และได้รางวัลนักกีฬาขวัญใจมหาชน จากการโหวตของแฟนกีฬาชาวไทยของบริษัทสยามสปอร์ต จำกัด ในปี พ.ศ. 2550 ทั้งที่เขาทรายแขวนนวมไปแล้วเกือบ 20 ปี



อีกทั้งยังเป็นนักมวยรายแรกด้วย ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ ประเพณีการมอบทองและของรางวัล ก่อนการชกบนเวที ซึ่งเริ่มมาจาก การป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 9 ที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยครั้งนั้นมีนายวัฒนา อัศวเหม เป็นประธานจัด ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มของการจัดชกมวยของนักการเมืองด้วย

ในทางการเมือง เขาทรายเข้าเป็นสมาชิก พรรคเพื่อแผ่นดิน และลงสมัครเลือกตั้งในระบบสัดส่วน ในการเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

ชีวิตส่วนตัวในปัจจุบัน เขาทรายมีบ้านพักที่ย่านนวลจันทร์ ถนนรามอินทรา โดยมี นางสุรีรัตน์ แสนคำ เป็นภรรยาในปัจจุบัน มีบุตรสาว 1 คน มีกิจการร้านหมูกระทะ โต๊ะสนุกเกอร์ หลังคารถกระบะ และกิจการค้าขายทางด้านเคมีภัณฑ์ทางการเกษตรที่จังหวัดสระบุรี งานอดิเรกของเขาทรายในยามว่าง คือ การปลูกผักสวนครัวเพื่อรับประทานเองในครอบครัว ไว้ในที่ดินที่บ้านพัก

ส่วนในวงการมวย ยังทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ให้กับนักมวยในสังกัดของนิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ อดีตผู้จัดการ เช่น เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม และ พูนสวัสดิ์ กระทิงแดงยิม เป็นต้น

เกียรติประวัติ

  • เป็นแชมป์ประเทศไทยรุ่นแบนตัมเวท โดยชนะน็อคยก 7 ศักดิ์สมัย ช.ศิริรัตน์ : 25 ม.ค. 2525
  • เป็นแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์แบนตัมเวท WBA โดยชนะน็อกยก 6 ยูเซบิโอ เอสปินัล นักมวยโดมินิกัน ที่เวทีมวยราชดำเนิน : 21 พ.ย. 2527 (เป็นการแพ้น็อกเพียงครั้งเดียวในชีวิตการชกของ เอสปินัล)
  • สถิติการชกป้องกันตำแหน่ง 19 ครั้ง