วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ก.ท่องเที่ยวฯ ทุ่มงบ20 ล้าน ดัน มวยไทย สร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทย



ก.ท่องเที่ยวฯ ดัน มวยไทย สร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทย

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาผุดไอเดียการท่องเที่ยวใหม่ดั น "มวยไทย" สร้างภาพลักษณ์ประเทศ หลังสำรวจค่ายมวยไทยสยายปีกทั่วโลก เตรียม 20 ล้านสร้างมาตรฐาน

นางธนิฎฐา เศวตศิลา มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า เพื่อบูรณาการการท่องเที่ยวและกีฬาตามนโยบายการทำงานของภาครัฐ กระทรวงท่องเที่ยวฯ จะกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยใช้มวยไทยในการสร้างภาพลักษณ์ หลังจากที่ผ่านมาพบว่าความนิยมของมวยไทยเป็นที่สนใจในระดับสากล


จนปัจจุบันทั่วโลกมีค่ายมวยไทยเกิดขึ้นกว่า 3 หมื่นแห่ง และที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีจำนวนกว่า 3 พันค่าย จาก 30 ประเทศทั่วโลก เช่น โมร็อคโค มีค่ายมวยไทย กว่า 220 แห่ง แอฟริกามากกว่า 10 ค่าย แต่ส่วนใหญ่ถึง 90% เจ้าของค่ายและครูฝึกไม่ใช่คนไทย


โดยเพื่อสานต่อกระแสความสนใจดังกล่าว กระทรวงท่องเที่ยวฯ เตรียมงบ 20 ล้านบาท จากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เพื่อดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ และการจัดทำมาตรฐานมวยไทย เพื่อเป็นเงื่อนไขในการรับรองค่ายมวยในทั่วโลกดังกล่าวโดยประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของเอกลักษณ์มวยไทยในต่างประเทศ อีกทั้งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการจ้างครูมวยคนไทยหรือการส่งสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับมวยไทยในอนาคตอีกด้วย ในส่วนของการท่องเที่ยวนั้นจะมีการต่อยอดโดยการโปรโมทโปรแกรมการท่องเที่ยว เพื่อชมศิลปะมวยไทยเพิ่มอีก 1 โปรแกรมตามงานโรดโชว์ต่าง ๆ เพิ่มเติมจากการนำเสนอสินค้าอื่น ๆ

โดยมีแนวคิดจะใช้มวยไทยในการสร้างแบรนด์ประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยว เพื่อเจาะตลาดเป้าหมายนักท่องเที่ยวนีชมาร์เก็ตที่สนใจกีฬามวยไทยดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยุโรป โปรตุเกส สเปน ตะวันออกกลาง เป็นต้นอีกทั้งจะจะจัดเป็นแฟนทริป เชิญสื่อมวลชนและบริษัทนำเที่ยวมาเยี่ยมชม เพื่อจะได้นำไปโปรโมทและบรรจุไว้ในแพกเกจทัวร์ท่องเที่ยว ซึ่งจะมีทั้งการเยี่ยมชมพิพิธภัณ์ และ การเยี่ยมชมค่ายมวยตัวอย่าง ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังค่ายมวยไทย ในจังหวัด พระนครศรีอยุธยา และ ราชบุรี เพื่อทำเป็นโครงการนำร่องอีกด้วย


FIGHT CLUB สามารถ พยัคฆ์อรุณ( samad payakaroon)

สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตแชมป์โลกคนที่ 10 ของไทย อดีตยอดนักมวยไทยชื่อดัง มีชื่อจริงว่า สามารถ ทิพย์ท่าไม้ เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2505 ที่ตำบลคลองเขต (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของตำบลท่าข้าม) อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถหัดชกมวยครั้งแรกโดยเริ่มจากมวยไทยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ โดยใช้ชื่อว่า "สามารถ ลูกคลองเขต"

สามารถชกมวยไทยในแถบจังหวัดภาคตะวันออกถึงร้อยกว่าครั้ง จึงได้เดินทางมาชกในกรุงเทพ ฯ ในปี พ.ศ. 2522 ที่เวทีลุมพินี โดยอยู่ในการดูแลของโปรโมเตอร์ชื่อดัง ทรงชัย รัตนสุบรรณ

สามารถถือได้ว่าเป็นนักมวยที่มีชั้นเชิงแพรวพราว สายตาดี ชกได้สนุก ชนะใจคนดู และประสบความสำเร็จอย่างมากในการชกมวยไทย โดยได้แชมป์ของเวทีมวยลุมพินีถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่นพินเวท (105 ปอนด์) ในปี พ.ศ. 2523 รุ่นจูเนียร์ฟลายเวท (108 ปอนด์) ในปี พ.ศ. 2523 รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (115 ปอนด์) ในปี พ.ศ. 2524 รุ่นเฟเธอร์เวท (126 ปอนด์) ในปี พ.ศ. 2524


สามารถ พยัคฆ์อรุณ เริ่มหันมาชกมวยสากลอาชีพโดยได้รับการสนับสนุนจากบุคคลหลายฝ่าย เช่น ทรงชัย รัตนสุบรรณ ผู้จัดการและโปรโมเตอร์ สหสมภพ ศรีสมวงศ์ และสุชาติ เกิดเมฆ สามารถชกมวยสากลสร้างประสบการณ์อยู่ 11 ครั้ง จึงได้ชิงแชมป์โลกครั้งแรกในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท (122 ปอนด์) ของสภามวยโลก หรือ WBC กับมักมวยชาวเม็กซิกัน กัวดาลูเป้ พินเธอร์ ผลการชก สามารถเอาชนะน็อกแชมป์โลกไปได้ในยกที่ 5 กลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 10 ของไทยไปทันที

ภายหลังจากได้แชมป์โลกไปแล้ว สามารถชกป้องกันตำแหน่งอีกครั้งคือ การชกป้องกันตำแหน่งกับ ฮวน คิด เมซ่า นักมวยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นอดีตแชมป์โลกในรุ่นนี้ ผลปรากฏว่า สามารถก็เอาชนะน็อกไปในยกที่ 12 การชกกับฮวน คิด เมซ่า ได้รับการกล่าวขานถึงเป็นอย่างมาก เพราะสามารถพิงเชือกโยกหลบหมัดของผู้ท้าชิงด้วยสายตาอันว่องไวนับสิบ ๆ หมัด (ประมาณกันว่า 27 หมัด) และชกสวนหมัดตรงเข้าปลายคางไปเพียงหมัดเดียว ก็เอาชนะน็อกผู้ท้าชิงไปได้อย่างน่าประทับใจ โดยการชกครั้งนี้เป็นการชกร่วมรายการเดียวกับ สด จิตรลดา ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBC กับกาเบรียล เบอร์นัล ด้วย

จากนั้น สามารถเดินทางไปป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2 เป็นการป้องกันตำแหน่งนอกบ้านถึงประเทศออสเตรเลีย กับนักมวยเจ้าถิ่น เจฟฟ์ เฟเนค (ซึ่งต่อมาเป็นนักมวยชื่อดังระดับโลก เป็นแชมป์โลก 3 รุ่น) การชกในครั้งนี้สามารถประสบกับปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวซึ่งต้องลดเป็นอย่างมาก จึงถูก เฟเนค น็อกในยกที่ 4 อย่างหมดรูป แต่กระนั้นก็ยังมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า สามารถล้มมวยหรือเปล่า เพราะไม่เชื่อว่าฟอร์มการชกก่อนหน้านั้น 2 ครั้ง จะทำให้สามารถแพ้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ซึ่งสามารถได้พิสูจน์ความจริงใจของตนเองด้วยการทำพิธีสาบานที่วัดพระแก้วจนเป็นข่าวครึกโครมในช่วงนั้น

หลังจากเสียแชมป์โลกไปแล้ว สามารถ ยังคงชกมวยต่อ และกลับมาชกมวยไทยอีกครั้ง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยการชนะนักมวยชั้นนำในสมัยนั้นหลายรายเช่น เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง เป็นต้น จนในปี พ.ศ. 2531 สามารถ พยัคฆ์อรุณ ได้รับรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยม จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬา



ด้วยความเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี มีบุคลิกที่โดดเด่น ประกอบกับมีนิสัยเจ้าสำราญ ทำให้มีบุคคลชักชวนเข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้ในวงการมวยเลยทีเดียว สามารถมีผลงานในวงการบันเทิงครั้งแรกโดยการออกเทปกับบริษัทแกรมมี่ ในชื่อชุด "ร็อกเหน่อ ๆ" มีเพลงดังที่รู้จักกันดีในยุคนั้นคือเพลง "อ่อนซ้อม" โดยเป็นการล้อเลียนการซ้อมมวยของสามารถเอง ซึ่งมักถูกกล่าวว่าเป็นมวยซ้อมน้อย และได้ออกอัลบั้มชุดต่อ ๆ มาอีกหลายชุด ไม่เพียงเท่านั้น สามารถยังได้ถ่ายแบบ แสดงหนัง ละคร หลายต่อหลายเรื่อง สามารถกลายเป็นดาราชื่อดังชั้นแนวหน้าในระยะเวลาไม่นาน และประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงโดยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองจากภาพยนตร์เรื่อง "ขยี้" ร่วมกับลิขิต เอกมงคล ในปี พ.ศ. 2534 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวจวบจนถึงปัจจุบันนี้ ที่มีนักแสดงนำชายที่ได้รับรางวัลนี้พร้อมกันถึง 2 คน

ซึ่งในระหว่างที่ยังมีชื่อเสียงอยู่นั้น สามารถมีข่าวคราวว่าคบหาอยู่กับ กันตา ดานาว นักแสดงสาวที่แสดงเรื่องขยี้อยู่ด้วยกัน





สามารถ พยัคฆ์อรุณ คลุกคลีอยู่ในวงการบันเทิงนานหลายปี จนหลายคนเชื่อว่า เขาคงเลิกราจากวงการมวยแล้ว แต่ในปี พ.ศ. 2536 สามารถ ก็กลับมาสู่เส้นทางพื้นผ้าใบอีกครั้ง ด้วยมีเป้าตั้งไว้ที่จะกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง โดยมี ทรงชัย รัตนสุบรรณ เป็นผู้สนับสนุนอีกเช่นเคย สามาถชกอุ่นเครื่องเคาะสนิมอยู่ 5 ครั้ง จึงได้ชิงแชมป์โลกในรุ่นเฟเธอร์เวท WBA กับ อีลอย โรฮาส นักมวยชาวเวเนซูเอล่า ในปี พ.ศ. 2537 ผลการชกคือ สามารถแพ้น็อกไปอย่างสิ้นสภาพในยกที่ 8 ปิดฉากชีวิตในแบบนักมวยทันที

ในปัจจุบัน สามารถ ยังคงอยู่ในวงการบันเทิง มีผลงานออกมาเป็นระยะ ๆ และในวงการมวยมีค่ายมวยเป็นของตัวเอง



อนึ่ง สามารถ พยัคฆ์อรุณ มีพี่ชายแท้ ๆ ซึ่งเป็นอดีตนักมวยไทยชื่อดังด้วยคือ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ ก้องธรณีเคยชกมวยสากลเหมือนสามารถ ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยครั้งที่ 2 ได้ชิงแชมป์กับแชมป์โลกชาวไทยด้วยกันเองคือ เขาทราย แกแล็คซี่


















โค้ชปาเกียวมั่นใจเอาชนะน็อคมอสลีย์ได้เป็นคนแรก




เฟรดดี โรช เทรนเนอร์คู่ใจ แมนนี่ ปาเกียวแสดงความเชื่อมือในตัวแพ็คแมนว่าจะสร้างประวัติศาสตร์เอาชนะน็อค เชน มอสลีย์ ได้เป็นคนแรกในการดวลกำปั้นในวันที่ 7 พ.ค.นี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเฟรดดี โรช เทรนเนอร์คู่ใจของปาเกียวยังมุ่นมั่นกับเป้าหมายที่ต้องการให้เดอะแพคแมนเอาชนะน็อค มอสลีย์เป็นคนแรกให้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้คู่ชกของปาเกียวยังไม่เคยพลาดท่าถูกน็อคเลยแม้แต่ครั้งเดียว พร้อมยืนยันว่าปาเกียวอยู่ในสภาพเต็มร้อยแล้ว

”ปาเกียว ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใคร เขามีวินัยในการซ้อม และมีความมุ่งมั่นสามารถพูดได้ว่า ตอนนี้เขาพร้อมเต็มที่แล้ว ปาเกียวเป็นนักชกที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก และจะเป็นคนแรกที่น็อค เชน มอสลีย์คาเวทีให้ได้” โรชกล่าว

  เครดิต ไทยรัฐ

Buakaw training @ China (pic)