พล.อ.นรินทร์ แทบประสิทธิ์ อุปนายกสมาคมชุดเก่า ผงาดขึ้นเป็นนายกคนใหม่แทนที่ "เสธ.วีป" พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ด้วยคะแนน 43 เสียง และไม่มีใครเสนอคู่แข่งด้วย
ผู้ สื่อข่าวสยามกีฬา รายงานข่าว ศึกชิงเก้าอี้นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ร้อนระอุเดือด บรรยากาศเครียดตั้งแต่เช้ายันบ่าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค. 54 ที่ผ่านมา ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ ย่านบางพลัด โดยมีรายละเอียดเบื้องหน้า-เบื้องหลัง ทั้งหมดดังนี้
บรรยากาศมาคุตำรวจ-ทหารเพียบ
โดย งานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2554 ของสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา มีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ แทนที่ "เสธ.วีป" พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ที่หมดวาระและไม่ขอสืบทอดตำแหน่งต่อไป
เนื่องจากมี ปัญหากับทางสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบา) กำหนดการงานจะเริ่มเวลา 10.00 น. แต่ก่อนหน้านั้นเวลา 09.00 น. มีเจ้าหน้าที่ สโมสรสมาชิก ต่างๆ รวมทั้ง ทีมงานของฝ่าย "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เดินทางมากันคับคั่ง
ซึ่งสังเกตว่างานนี้มีเจ้าหน้าที่ ตำรวจและทหารทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบมากันเยอะผิดคาด จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องบอกว่า ฝ่ายของ เสธ.วีป ได้นำเอาตำรวจ 191 และ ส.ห.ทหารเรือ มาดูแลความเรียบร้อย ส่วนทางฝ่าย เสธ.อ้าย มี เสธ.ทหารบก และทหารนอกเครื่องแบบยืนคุมเชิงกันหลายสิบคนทีเดียว บรรยากาศมาคุดูแล้วเคร่งเครียดทั้งสองฝ่าย
"พล.อ.บุญเลิศ" มานั่งรอสีหน้านิ่งเฉย
การ ประชุมใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของสมาคมมวยสากลสมัครเล่นครั้งนี้ "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ซึ่งเป็นแคนดิเดตตัวเต็งในการชิงเก้าอี้ หลังจากก่อนหน้านี้ "บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ เหรัญญิกคณะกรรมการโอลิมปิคไทย ได้ขอถอนตัวออกไป ได้เดินทางมาที่หน้างานพร้อมทีมงานและนายทหารใหญ่ ซึ่งมารอให้กำลังใจ และหวังจะร่วมแสดงความยินดีอย่างมากมาย
โดย เสธ.อ้าย มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและทักทายกับผู้สื่อข่าวและคนที่เข้ามายกมือไหว้ อย่างเป็นกันเอง ไม่มีสีหน้าเคร่งเครียดแต่อย่างใด วางตัวนิ่งเฉย แตกต่างจากทีมงานที่พยายามดิสเครดิต เสธ.วีป อย่างเต็มที่ แจกใบปลิวโจมตีต่างๆ หลายใบ
"เสธ.วีป" นับถือเป็นพี่ชายที่น่ารัก
หลัง จากนั้นทาง เสธ.วีป ได้เดินทางเข้ามาในงาน และได้ทักทายกับทีมงานของ เสธ.อ้าย หลายคน ก่อนที่ พล.ท.กสิณ จะบอกว่า เสธ.อ้าย มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เสธ.วีป จึงเดินเข้าไปทักทาย เสธ.อ้าย ยกมือไหว้ด้วยความเคารพตามประสารุ่นพี่ และได้นั่งพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด น้ำเสียงนิ่งเรียบไม่มีความกดดันทั้งสองฝ่าย
โดยเป็น ฝ่ายของ เสธ.วีป ที่พูดมากกว่า บอกว่า จริงๆ แล้ว ตนเคารพพี่อ้ายมานานแล้ว ยังประทับใจไม่หาย เมื่อครั้งที่ถูกกักบริเวณ แล้วพี่อ้ายนำกระติกโอเลี้ยงมาให้พวกตน เมื่อตอนเรียนอยู่ชั้นปี 1 ซึ่งตนบอกกับทุกคนอยู่เสมอว่า พี่อ้ายเป็นคนน่ารักมาก แต่พอ เสธ.วีป ลุกขึ้นลา เสธ.อ้าย พร้อมยกมือไหว้ เสธ.วีป ได้พูดว่า "ต้องกราบขอโทษพี่ด้วย" แต่ไม่รู้ว่าขอโทษเรื่องอะไร หรือ เสธ.วีปไปทำอะไรไม่ดีจนต้องขอโทษ เสธ.อ้าย ในครั้งนี้
ปะทะคารม "พล.ท.กสิณ" โชว์ออฟ
ภาย หลังที่ทักทาย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เรียบร้อยแล้ว ทาง พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ได้ลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวเข้าห้องประชุมต่อ แต่ปรากฏว่าทาง พล.ท.กสิณ ทองโกมล ได้เข้ามาสอบถาม เสธ.วีป ว่า ตอนนี้ยังเป็นนายกสมาคมอยู่หรือ ไหนบอกว่าไปลาออกกับประธานโอลิมปิกแล้ว และให้สัมภาษณ์ทีวีด้วย และถูกทางไอบาลงโทษอีกต่างหาก
เส ธ.วีป ตอบว่าเรื่องนี้ให้ไปถามโอลิมปิกเอาเอง ก่อนจะถามต่อด้วยสีหน้าและน้ำเสียงไม่พอใจอีกว่าที่ถามอย่างนี้เหมือนอยาก ให้เป็นข่าวใช่มั้ย "เรื่องนี้อยากให้คุยกันแบบพี่ๆ น้องๆ ดีกว่า น้องสิณพูดแบบนี้ไม่น่ารัก น้องรักพี่อ้าย พี่ก็รักพี่อ้าย แต่ไม่ต้องโชว์ออฟหรอก"
ทาง พล.ท.กสิณ สวนกลับทันควันว่า แต่ผมอยากโชว์ออฟ และอยากรู้ว่า เสธ.วีป ใช้สิทธิ์อะไรในการเป็นนายกคุมเกมเลือกตั้งครั้งนี้ เสธ.วีป ให้ไปดูในข้อกฎหมาย แต่ พล.อ.กสิณ บอกว่าผมจะใช้กฎหมายกับพี่ เหตุการณ์ตึงเครียดทีเดียวถึงช่วงนี้
โต้เถียงกันตลอดเกินเวลาประชุม
โดย ทางฝ่ายของ เสธ.อ้าย มีลูกน้องคนสนิท พล.ท.กสิณ ทองโกมล, พ.อ.วริทธิ์ ปานสุวรรณ และ พ.อ.ศักดา เพ็ชรจินดา เป็นฝ่ายเดินเครื่องประท้วงสมาคมมวยฯ ที่ทำหนังสือแจ้งสโมสรสมาชิกกระชั้นชิด ทำให้สโมสรหลายแห่งไม่สามารถเข้าประชุมได้ รวมทั้งไม่พอใจมากที่ต้องให้มีการทำไอดีการ์ด
โดยอ้าง ว่าที่ผ่านมาในการประชุมใหญ่ทุกครั้ง เลือกตั้งนายกสมาคมทุกสมัย ไม่เคยมีการทำไอดีการ์ดมาก่อนเลย อยู่ดีๆ ครั้งนี้อยากทำขึ้นมาทำใหม่ มีนัยยะอะไรหรือเปล่า และมีทีมงานของ เสธ.อ้าย หลายคน พยายามพูดเสียงดังว่าการประชุมเลือกตั้งครั้งนี้ทำกันอย่างไม่โปร่งใส มีการพูดจาโต้เถียงกับทีมงานของ เสธ.วีป ที่เป็นเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนอยู่ตลอด
โดยมี "มาดามแอ๊ด" ภูษิตา จันทรโรจน์ และทนายวสันต์ ฝีมือช่าง คอยตอบคำถามและพยายามบอกให้ พล.ท.กสิณ กับทีมงานใจเย็นๆ จนถึงเวลาเริ่มงาน 10.00 น. ก็ยังไม่ได้เริ่มประชุมสักที
ปิดห้องประชุมไม่ให้นักข่าวเข้า
จน ในที่สุด เวลาประมาณ 11.00 น. การประชุมจึงได้เริ่มขึ้น โดยตอนแรกมีข่าวว่าจะไม่ให้สื่อมวลชนเข้าห้องประชุมด้วย ทำให้ทางฝ่าย เสธ.อ้าย โวยเสียงดังว่า ทำอย่างนี้ไม่ถูก ถือว่าไม่โปร่งใส ทำไมไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว ปิดข่าวกันทำไม
แต่ ต่อมาสักพักมีคนเดินมาบอกว่า เสธ.วีป ให้เข้าไปในห้องประชุมใหญ่ ห้องภานุมาศ ได้ แต่ปรากฏว่าให้ช่างภาพทีวีและตากล้องเข้าไปบันทึกภาพและถ่ายเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ก็เชิญสื่อมวลชนทุกสำนักออกจากห้องประชุม ไม่ได้ให้ฟังการประชุมแต่อย่างใด ทำเอาบรรดาสื่อต่างเซ็งไปตามๆ กัน
โหวตเอกฉันท์ "พล.อ.นรินทร์" ไร้คู่แข่ง
ภาย หลังการประชุมผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นการพูดคุยเรื่องกิจการงานต่างๆ ของสมาคมที่ผ่านมาในยุคคณะกรรมการบริหารชุดเก่า ต่อจากนั้นก็เป็นวาระการเลือกตั้ง นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ คนใหม่
โดย ในการประชุมครั้งนี้มี สโมสรสมาชิกเข้าร่วมประชุม 33 แห่ง จากทั้งหมด 39 แห่ง พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารอีก 18 เสียงอยู่ครบองค์ประชุม และได้มีการเสนอชื่อ พล.อ.นรินทร์ แทบประสิทธิ์ เป็นนายกสมาคมมวยคนใหม่ ซึ่งไม่มีใครเสนอคู่แข่งขึ้นมา ก่อนที่จะให้มีการยกมือโหวต
ผล ปรากฏว่า เสียงโหวตของสโมสรสมาชิกและคณะกรรมการบริหาร ชูมือให้ พล.อ.นรินทร์ แทบประสิทธิ์ เป็นนายกคนใหม่ ด้วยเสียงทั้งหมด 43 เสียง แบ่งออกเป็นเสียงจากสโมสรสมาชิก 25 เสียง และคณะกรรมการบริหารอีก 18 เสียง โดยไม่มีเสียงคัดค้านใดๆ ทั้งสิ้น มติจึงเป็นอันว่า พล.อ.นรินทร์ ผงาดสู่เก้าอี้นายกมวยเสื้อกล้ามทันใดนั้นะ
"พล.อ.นรินทร์" ภูมิใจได้เป็นนายก
หลัง จากประชุมใหญ่สามัญประจำปี และได้เลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว นายกคนใหม่ พล.อ.นรินทร์ แทบประสิทธิ์ ซึ่งเป็นอุปนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่น ของคณะกรรมการบริหารชุดที่ผ่านมา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เปิดใจด้วยความปลื้มว่า
ผม ต้องขอบคุณทุกคนที่มีความสนใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมต้องขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสโมสรสมาชิก ที่สนับสนุนให้ผมได้เป็นนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยคนใหม่ครั้ง นี้ ผมมีความภูมิใจอย่างมาก เพราะสมาคมมวยเป็นสมาคมที่อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมขอสัญญาว่าจะทำงานให้ดีที่สุด สุดความสามารถ สร้างชื่อเสียงให้สมาคมมวยสากลสมัครเล่นและประเทศชาติต่อไป
ไม่ตอบว่าเป็นนอมินี "เสธ.วีป"
ผู้ สื่อข่าวถามต่อว่า เป็นนอมินีกับ เสธ.วีป หรือเปล่า เรื่องนี้ พล.อ.นรินทร์ กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการทำงานของสมาคมมวย เป็นการทำงานที่ใช้ระบบเป็นทีม มีลักษณะเป็นประชาธิปไตย พร้อมกับบอกว่า พล.อ.ทวีป ที่ผ่านมาได้เสียสละกับการทำงานเพื่อชาติเพื่อส่วนรวมมาตลอด ทำเหรียญโอลิมปิกให้กับประเทศได้ถึง 9 เหรียญ และได้เหรียญทองมาหลายครั้ง
ที่ ผ่านมาสมาคมได้พัฒนาผลงาน และยกระดับการทำงานเพิ่มขึ้นโดยตลอด ซึ่งอดีตนายกทุกท่านทุกสมัยก็สืบสานผลงานก้าวหน้าให้เห็น สำหรับตนแล้วก็จะพยายามสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องเป็นนอมินีกับ เสธ.วีป แต่อย่างใด
เชื่อประธานไอบามีน้ำใจนักกีฬา
สำหรับ เรื่องที่ว่าจะมีปัญหากับทางสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ หรือไอบา หรือเปล่านั้น นายกคนใหม่ตอบว่า สำหรับการทำงานเราก็คงจะต้องประสานความร่วมมือกับองค์กรทั้งในประเทศและต่าง ประเทศ เราพร้อมที่จะให้ความร่วมมือประสานสัมพันธ์ติดต่อกับทุกคนทุกฝ่ายอย่างดีที่ สุด ไม่ว่าจะเป็นในระดับเอเชีย อาเซียน หรือระดับโลก
"ผม มีโอกาสได้พบกับชิง โคว วู ประธานไอบา หลายครั้ง ท่านเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง เป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือ เป็นนักกีฬาและมีน้ำใจนักกีฬา อะไรที่ไม่เกี่ยวกับงาน ผมเชื่อว่าน่าจะแยกส่วนไป ไม่นำมาเกี่ยวข้องกัน"
"เสธ.วีป" ให้ถามเรื่องสร้างสรรค์
ต่อ จากนั้นสื่อมวลชนได้ฮือเข้าไปสัมภาษณ์ทาง "เสธ.วีป" พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ อดีตนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่น เป็นคนต่อไป โดยคำถามแรกที่สื่อถามคือ ถ้าไอบาไม่ให้การรับรองเพราะเห็นว่าเป็นนอมินีกับ พล.อ.ทวีป จะทำยังไง เจอคำถามนี้เข้าไป เสธ.วีป มีสีหน้าเครียดทันที ก่อนตอบเสียงเครียดว่า ผมอยากให้ถามเรื่องสร้างสรรค์ดีกว่า อะไรที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ผมว่าอย่าทำเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ เรายึดตามกฎข้อบังคับอย่างดีที่สุดแล้ว
โบ้ย!ไม่รู้ "นอมินี" คืออะไร
เมื่อ ผู้สื่อข่ามถามย้ำว่าอย่างนี้ถ้ามีคนคิดว่า นายกคนใหม่ พล.อ.นรินทร์ แทบประสิทธิ์ เป็นนอมินีกับ พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ จะว่ายังไง เสธ.วีป ตอบกลับแบบหน้าตาย "ผมไม่รู้นอมินีแปลว่าอะไร แต่อยากให้มองอย่างนี้ดีกว่า ในเมื่อเสียงสนับสนุนเป็นเอกฉันท์ ก็ไม่น่ามีปัญหา"
"เรา เป็นประเทศเอกราช ทำตามกฎหมายของประเทศไทย ไม่เห็นต้องวิตกอะไร และอีกอย่างวุฒิภาวะของคนที่เป็นพลเอก เขาไม่ฟังผมข้างเดียวหรอก ไม่ฟังหรอกว่าผมพูดอะไร ทุกอย่างต้องมีเหตุและผลเพียงพอ ที่เขาจะรับฟัง ในเมื่อสมาชิกไม่มีการเสนอชื่อใครแข่งด้วย ก็ไม่น่ามีปัญหานะ"
เรื่องไอดีการ์ดยึดหลักตามสากล
สำหรับ เรื่อง ไอดีการ์ด นั้น เสธ.วีป บอก ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนี่ สากลทั่วโลกเดี๋ยวนี้เขาใช้ทำกันทั้งนั้น สมาชิกส่วนใหญ่เขาตอบรับมา ไม่เห็นมีใครบอกว่าทำไม่ได้ เราต้องดูเสียงส่วนใหญ่ ถ้าสมาคมทำหนังสือแล้วเขาตอบรับมาไม่ถึงครึ่งสิน่าคิด แต่นี่ส่งเอกสารหนังสือไป 39 สโมสร มีตอบรับมา 30 กว่าสโมสร แสดงว่าที่ส่งมาเขารับทราบ เรื่องนี้เรามีหลักฐานแสดงชัดเจน สมาคมไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือ ยึดตามหลักสากลทั่วโลก
ยันวางมือแน่ขอไปเที่ยว 3 เดือน
ส่วน ข้อถามที่ว่าจะวางมือแน่นอนจริงหรือเปล่า เสธ.วีป ตอบทันที ตนวางมือแน่นอน หลังจากนี้คิดว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนสัก 3 เดือน แล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่ โดยการประชุมที่ผ่านไปได้ฝากอะไรไว้หลายอย่างกับสโมสรสมาชิก และคณะกรรมการแล้ว
ตนอยู่กับวงการมวยมา 20 ปีเต็ม ผ่านทั้งทุกข์และสุขมามากมาย ได้ทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ ตอนนี้ขอเป็นอิสระบ้าง อยากทำอะไรก็ทำ ภรรยาเลิกทำธุรกิจส่วนตัวมาตั้งแต่ปี 39 ก็คงต้องกลับไปดูงานเก่าเอามาทำใหม่ ทำในสิ่งที่ปล่อยทิ้งมานานบ้าง
ตัวแทน กกท.ชี้ยึดตามกฎถูกต้อง
ด้าน ตัวแทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย คือ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ได้ชี้แจงถึงการประชุมเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ดูวุ่นวายและฟ้องร้องกันจากฝ่ายของทีมงาน พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
โดย เผยว่า การประชุมถือว่าเรียบร้อยดี แม้ก่อนเริ่มงานอาจมีปัญหาเกิดขึ้นจากเรื่องการตัดสินสโมสรสมาชิกบางสโมสร ที่ไม่ได้ชำระค่าบำรุงรายปี ซึ่งเป็นกฎที่ทางสมาคมสามารถทำได้ ส่วนว่าจะมีการฟ้องร้องหลังจากนี้หรือเปล่า คงต้องดูเหตุและผลถึงประเด็นการฟ้องร้องนั้น ทาง กกท.พร้อมให้ความเป็นธรรมกับบุคคลทุกฝ่ายอยู่แล้ว
แต่ ยืนยันว่าการประชุมใหญ่ของสมาคมมวยครั้งนี้ ภาพรวมถือว่าเรียบร้อยดีทุกอย่าง ทุกอย่างทาง พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ได้ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่ระบุไว้ชัดเจนแน่ชัดทั้งหมด
แฟ้มอดีต 2 กลุ่มฟ้องศาลชิงคุม ส.มวย
ย้อน กลับไปในอดีต เคยมีเหตุการณ์ฟ้องศาลเกิดขึ้นเหมือนกันจากการชิงตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากล สมัครเล่น โดยหลังจากที่ "เสธ.นุ" พ.อ.อนุ รมยานนท์ นายกสมาคมกีฬาคนดัง เพราะเป็นนายกสมาคมฟุตบอล และ นายกสมาคมมวยสมัครเล่นฯ พร้อมๆ กัน ได้เสียชีวิตลงไป
ปรากฏว่า มีกลุ่มคนในวงการมวย แตกเป็นสองกลุ่ม ต่างฝ่ายต่างต้องการที่ จะเข้ามาควบคุม สมาคมมวยสมัครเล่น จนกระทั่งมีเมื่อราวปี พ.ศ. 2528 มีการเลือกตั้ง นายกสมาคมมวยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ทางกลุ่ม "บิ๊กอึ่ง" นายสมภพ หรือ นายสหสมภพ ศรีสมวงศ์ ได้ชักชวนบรรดาเพื่อนๆ สมาชิกนัดประชุมกันขึ้นที่ โรงแรมบางกอกพาเลส (ชื่อเดิมของโรงแรมเมอร์เคียว) และได้มีการลงมติอย่างรวดเร็ว ให้ "บิ๊กอึ่ง" ดำรงตำแหน่งนายก
แต่ ทว่าระหว่างนั้น อีกกลุ่มหนึ่ง ที่อยู่ภายใต้การคอนโทรลของ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ มีนายเฉลิมพงษ์ เชี่ยวสกุล-และกลุ่มกรมพลศึกษา ทราบข่าวก่อน จึงรีบเดินทางไปขัดขวางการประชุม แต่ไม่ทัน จึงหันไปแจ้งสันติบาล เพื่อยับยั้งไม่ให้มีการจดทะเบียนสมาคมมวยสมัครเล่น ที่มี "บิ๊กอึ่ง" เป็นนายก (สมัยนั้น สมาคมกีฬา ต้องจดทะเบียนกับทางสันติบาล)
ใน ขณะเดียวกัน กลุ่ม ดร.ศักดิ์ชาย มีการจัดประชุมเช่นเดียวกันและลงมติให้ นายประชุม รัตนเพียร ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในขณะนั้น มาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมมวยฯ แทน ทำให้ "บิ๊กอึ่ง" นำความฟ้องร้องต่อศาล ให้ถือว่า สมาคมมวยที่มีนายประชุม เป็นนายกฯ อยู่นั้น เป็นสมาคมเถื่อน ซึ่งการฟ้องร้องดำเนินไปต่อเนื่องหลายปี กระทั่ง "เฮียเหลา" นายแคล้ว ธนิกุล ซึ่งเป็นอุปนายกสมาคมมวยฯ ได้มาขอร้องให้ "บิ๊กอึ่ง" ถอนฟ้อง ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น