วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มาดูสาวๆถือป้าย ในการแข่งขันมวยไทยกัน















Kyokushin Karate (Very pain)






สันติภาพเก๋าปราบฉลองศึกย้ำแค้นมวย7สี

 
 

        สันติภาพ ศิษย์อุ๊อุบล ดันแทงเนื้อๆ มีเหลี่ยมหักช่วย เอาชนะเกลอเก่า ฉลองศึก พี.เค.พี.สปอร์ต ไปอีกครั้ง เพิ่มสถิติชนะ 4 แพ้ 1 ในการเจอกัน คู่เอกศึกมวยไทยช่อง 7 สี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา


     ศึกมวยไทยช่อง 7 สี เวทีมวยช่อง 7 นัดวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา สันติภาพ ศิษย์อุ๊อุบล เจอกับ ฉลองศึก พี.เค.พี.สปอร์ต ในพิกัด 130 ปอนด์ เจอกันมา 4 ครั้ง ฉลองศึก ชนะได้แค่ครั้งเดียว ขึ้นมา สันติภาพ ต่อ 10-9 สถิติข่ม เก๋ากว่า
 
     ยกสอง เกมพลิก เมื่อ แลกเข่าดวลแข้งวกันไปแล้ว ฉลองศึก แน่นกว่า ทรงมวยแข็งแกร่งกว่า ราคาพลิก เสมอฉลองศึก
 
     ยกสาม ฉลองศึก ปักหลักดันแทงสู้กับ สันติภาพ ที่จังหวะเข่าของ สันติภาพ ดีดว่าแทงราวนมแล้ว ดันเตะสับศอก ฉายเป็นชุด ฉลองศึก ช้าลงไป หมดยก สันติภาพ ต่อ 3-1
 
     ยกสี่ สันติภาพ ดันแทง แล้วพาเข้าเชือก ฉลองศึก ทำอะไรไม่ได้ มาโดนหักล้มสองรอบ หัวทิ่มเสียทรงราคาไป 10-1 ปลายยกมีเฮ สับศอก แล้วหัก ราคาลดลงมาอีกนิด หมดยก สันติภาพต่อ 8-1
 
     ยกสุดท้าย สันติภาพ คว้าคอแล้วบิด ฉลองศึก เอียงล้มตะแคงข้างไปสองครั้ง เกมจบทันที ครบยก "สันติภาพ" ชนะขาดท้ายๆ
 
     คู่รอง วังจั่นน้อย ศิษย์อุ๊อุบล ฝีมือ ชิงเตะขวาวงในปล้ำตีแล้วหักแทงเอาชนะ ชนะเพชร สายันต์ยิม ขาดลอย ม้วนเดียวจบ
 
     ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆ หาญ ส.ศักรินทร์ แพ้คะแนน โชคดี ส.สมรักษ์, พลังสิงห์ ส.ราชสีห์ ต่อยหมัดน็อก หนึ่งพิชิต ส.ศักดิ์มีชัย, ฟ้าลิขิต พี.เค.พี.สปอร์ต แพ้คะแนน ธงพิมาย โพ้พิมายสนุกเกอร์ และ ปานเพชร วิทวัสมวยไทย แพ้คะแนน ลมหวน ลูกไทวา 6
 
เครดิต  siamsport.com

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Muay Thai Techniques By Tony Jaa





ฮือฮา!นักธุรกิจทุ่มเงินล้านขนยอดมวยทรงชัยลงใต้

 
 

        
เซ็นสัญญายืนยันแน่นอนแล้ว "บิ๊กซ้ง" ทรงชัย รัตนสุบรรณ เตรียมยกทัพยอดมวยเอกศึกวันทรงชัยเงินล้าน ไปพบกับแฟนมวยชาวใต้ ในวันพุธที่ 6 เม.ย. นี้ ณ. เวทีมวยชั่วคราวโรงยิมส์เนเซียมเทศบาล อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยมีเสี่ยใหญ่ใจแม่น้ำ "ประสิทธิ์ จันทรา" รับเป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันทุ่มทุนเป็นล้านเพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้คนมวยตะลึงทั้งประเทศ



     หลังจากวางแผนเตรียมงานมาระยะหนึ่งแล้ว โปรโมเตอร์ ทรงชัย รัตนสุบรรณ และ "น้องโอ๋" ปริยากร รัตนสุบรรณ ก็ได้ทำการเซ็นสัญญาเพื่อเตรียมจัดรายการศึกวันทรงชัยเงินล้านสัญจร ผ่าโลกแดนใต้ ในวันพุธที่ 6 เมษายน ที่เวทีมวยชั่วคราว โรงยิมเนเซียมเทศบาล อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ร่วมกับ ประสิทธิ์ จันทรา นักธุรกิจชื่อดังของ อ.รัตภูมิ และพี่ชาวชาวอำเภอรัตภูมิ โดยการประสานงานของ สิทธิ์ รัตภูมิ และ กอเดช หนูแดง หัวหน้าคณะ-ผู้จัดการ ค่ายมวย ป.เตละกุล
 
     ภายหลังจากที่ได้ทำการเซ็นสัญญา จัดรายการศึกวันทรงชัย สัญจร ผ่าโลกแดนใต้นัดยิ่งใหญ่ ประสิทธิ์ จันทรา นักธุรกิจชื่อดังของภาคใต้ โปรโมเตอร์ผู้จัดการแข่งขัน กล่าวว่าที่ผ่านมาตนเองเป็นแฟนมวยศึกวันทรงชัยมาตลอด ทั้งมวยไทย และมวยโลก ทุกครั้งที่มีการจัดรายการนัดใหญ่ รายการเงินล้าน รวมถึงนัดวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาที่เวทีราชดำเนิน
 
     ตนเองก็เป็นคนหนึ่ง ในจำนวนพี่น้องชาวใต้หลายร้อยคนที่เป็นแฟนศึกวันทรงชัย และเดินทางเข้าชมการแข่งขัน ยอมรับเลยว่าเป็นรายการที่จัดแล้วคนดูเยอะ มวยก็ชกกันสนุก และ ทุกครั้งก็จะมีแฟนมวยชาวภาคใต้เดินทางขึ้นมาดูเยอะ ตนเองจึงคิดว่าน่าจะนำคู่มวยรายการศึกวันทรงชัยเงินล้าน ที่มีการจัดแข่งขันในเมืองกรุงไปสัญจร ที่ ภาคใต้ ที่เวทีมวยชั่วคราวโรงยิมเนเซียม เทศบาล อ.รัตภูมิ ในวันที่ 6 เม.ย. นี้ โดยที่รายได้จากการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งนำไปมอบให้กับ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อ.รัตภูมิ ต่อไป
 
     ขณะที่ "บิ๊กซ้ง" ทรงชัย รัตนสุบรรณ โปรโมเตอร์เงินล้าน กล่าวว่า นี่เป็นนิมิตหมายที่ดีของแฟนมวยวันทรงชัย ชาวใต้ที่จะดูคู่มวยเงินแสนผ่านการชกรายการเงินล้านมาแล้ว ที่ตนเองจะยกให้กับวันทรงชัย สัญจร ผ่าโลกแดนใต้ ในวันที่ 6 เม.ย.นี้ทั้งหมด เพราะ ท่านวิโรจน์ จันทรา ให้เกียรติกับตนเองอย่างมาก ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนที่ผ่านมาตนเองจัดรายการใหญ่ๆ มาเยอะ มาทั่วประเทศ แต่ว่ายังไม่เคยมีรายการศึกวันทรงชัย เงินล้าน ในแบบมวยไทย รายการไหนที่ใหญ่เท่ากับรายการวันที่ 6 เม.ย.นี้มาก่อน
 
     เพราะที่ผ่านมาไปอย่างมากก็แค่ 3-4 คู่ แต่ว่ารายการนี้ อัดแน่นทั้งรายการ นำมวยที่ผ่านการชกรายการเงินล้านในรายการศึกวันทรงชัยนัดวันที่ 21 ก.พ. ทั้งหมด หลังจากที่เขาชกในรายการศึกเพชรสุภาพรรณ นัดวันที่ 15 มี.ค. นี้ที่ลุมพินีเสร็จ ก็จะยกไปชกให้กับแฟนมวยชาวใต้ ได้ดูในวันที่ 6 เม.ย. นี้ที่เวทีมวยเทศบาล อ.รัตภูมิ อย่างแน่นอน


เครดิต  siamsport.com

สาวๆกรี๊ด...."นิชคุณชกมวย"













แง่คิดดีๆกับ เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง

“ชีวิตนักมวยมันเสี่ยง ถ้ายิ่งไม่มีวินัย ยิ่งไม่รู้จักคุณค่าของตัวเอง ความเสี่ยงที่จะล้มเหลวมันก็มีเพิ่มมากขึ้น”

   เป็นคำกล่าวของ สิบเอกเจริญ ชูมณี หรือที่แฟนหมัดมวยรู้จักดีในชื่อ “เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง” ซึ่งปัจจุบันอดีตแชมป์มวยไทยค่าตัวเรือนแสนคนนี้กลายเป็น “ครูเป็ด” เป็น “ครูมวย” เปิดโรงเรียนสอนมวยไทย มีลูกศิษย์มากมายหลายเชื้อชาติ มาดูชีวิตวันวานถึงวันนี้ของเขาคนนี้กัน.....

ครูเป็ดเล่าว่า ที่ตัดสินใจมาเปิดโรงเรียนสอนชกมวยไทย นอกจากต้องการรักษาและเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติแล้ว ก็ยังเป็นเพราะมองว่ามวยไทยเป็นเสมือนครูผู้มีพระคุณที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมา มีวันนี้ได้

ย้อนไปในอดีต เขาคนนี้เป็นเด็กบ้านนอก เกิดที่นครศรีธรรมราช มีพี่น้องด้วยกัน 9 คน เขาเป็นลูกคนที่ 7 ส่วน สำราญทอง เกียรติบ้านช่อง อดีตนักมวยดังอีกคนที่ล่วงลับไปแล้วเป็นลูกคนที่ 8 ครูเป็ดบอกว่าชอบมวยไทยมาก โดยมีนักชกในดวงใจคือ สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตแชมป์มวยไทยและมวยสากล โดยทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะชอบดูมวยทางโทรทัศน์ ดูแล้วก็จะจำท่าเตะท่าต่อยเอามาหัดเล่นตามประสา

จนได้มีโอกาสขึ้นชกจริงตอนอายุ 12 ขวบ ได้เงินค่าตัวครั้งแรกมา 100 บาท ซึ่งเขาบอกว่าตอนนั้นภูมิใจมาก ต่อมาเมื่อมาเรียนกรุงเทพฯ ก็ยังต่อยมวยอยู่ จนมีครูมวยเจ้าของค่าย ใหม่ เมืองคอน มาพบเข้า จึงได้รับการฝากฝังให้เข้าสังกัด หลังจากนั้นก็ต่อยสั่งสมชื่อเสียงมาเรื่อย ๆ จนคว้าแชมป์หลายรุ่น โดยเขาเล่าว่าค่าตัวสูงสุดที่เคยได้รับคือ 2.5 แสนบาท เป็นการชกกับ แสนเชิง ปิ่นแสงชัย นักมวยดังอีกคนในยุคก่อน

“ผมไม่เคยคิดล้มมวย คิดเสมอว่าถ้าทำอย่างนั้นก็เหมือนกำลังดูถูกตัวเอง คนเราทำอาชีพอะไรต้องซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์สำคัญมาก” เป็นคำกล่าวของครูเป็ด-เจริญทอง

นอกจากชื่อเสียงโด่งดังทางเชิงมวย ครั้งหนึ่งชื่อเสียงของเจริญทองก็ตกเป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ หลังจากลุกขึ้นสลัดผ้าถ่ายแบบแนวเซ็กซี่หรือ “นู้ดผู้ชาย” เรื่องนี้ครูเป็ดบอกว่า ตอนนั้นยังไม่มีครอบครัว ประกอบกับอยากรู้อยากลอง และคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย ซึ่งเขาเองก็ต้องการถ่ายภาพตัวเองเพื่อเก็บไว้ดูเองด้วย เพราะร่างกายขณะนั้นเรียกว่าสมบูรณ์ที่สุด แต่ก็โดนเสียงวิจารณ์ค่อนข้างหนัก

“ตอนนั้นคิดว่าก็เหมือนกับผู้หญิงถ่ายชุดว่ายน้ำ ก็ตัดสินใจถ่าย ได้ค่าตัวมา 3 แสนบาท หลังภาพออกไปก็มีคำวิจารณ์เยอะ เพราะเราถือว่าเป็นนักมวยคนแรกเลยมั้งที่ลุกขึ้นมาทำแบบนี้ ก็โดนเยอะ เราก็เฉย ๆ ไม่โต้ตอบอะไร เพราะเรื่องแบบนี้ต่างคนต่างคิด ตอนนั้นไม่มีครอบครัวด้วย ซึ่งถ้าเป็นตอนนี้เราก็คงไม่ทำ”

ปัจจุบันนักมวยไทยที่เคยมีชื่อเสียงนิยมถูกดึงตัวไป “ชกโชว์” เมื่อถามครูเป็ดว่าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ หากมีคนชวนเขาขึ้นชกเคาะสนิมอีกครั้งจะว่าอย่างไร เขาตอบว่า “ผมแขวนนวมมากว่าสิบปีแล้ว ที่เลิกเพราะร่างกายเราคงไม่ไหวแล้วที่จะต้องใช้ขนาดนั้น อีกอย่างหลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม สาขาพลศึกษา ประกอบกับเคยไปสอนมวยไทยในรั้วสถาบันการศึกษา กับเคยไปสอนมวยไทยที่ต่างประเทศ ก็เลยคิดว่าเราน่าจะทำโรงเรียนสอนชกมวยไทยเป็นเรื่องเป็นราวได้ ก็เลยตัดสินใจเปิด ครั้งแรกที่เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี แต่ไม่เวิร์ก เพราะตอนนั้นยังไม่บูม จึงมาทำศูนย์กีฬาที่บ้านเกิดคือที่นครศรีธรรมราช จังหวะพอดีแฟนตั้งท้องแล้วเขาอยากจะมาอยู่กรุงเทพฯ ก็เลยตัดสินใจมาเปิดที่กรุงเทพฯ ใช้เงินลงทุนตอนนั้นราว ๆ 5 แสนบาท ปัจจุบันก็จะเข้าปีที่ 6 แล้ว ก็ถือว่าพอไปได้”

ครูเป็ดในวัย 41 ปี เล่าอีกว่า ช่วงแรก ๆ ต้องเรียกว่าล้มลุกคลุกคลานพอสมควร แต่เพราะรักและมีความสุขที่จะทำ จึงใช้ความอดทน และจากที่เคยต้องนั่งรอนักเรียนวันละคนสองคน ปัจจุบันนี้โรงเรียนแห่งนี้มีลูกศิษย์นานาชาติมากถึง 762 คน โดยมีทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน อเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส โดยเปิดสอนในวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ซึ่งครูเป็ดบอกว่า รูปแบบการสอนจะใช้ประสบการณ์ตรงและมองความเหมาะสมของผู้มาเรียน โดยมีหลักอยู่ที่การเน้นว่าควรสอนยังไงให้คนเรียนสนุกด้วย มีความรู้ด้วย

“เดินมาถึงจุดนี้ได้เพราะมวยไทย จึงรักและหวงแหนมาก” ครูเป็ดบอก และว่า ถ้ามีเรื่องไหนที่จะทำให้มวยไทยถูกบิดเบือนหรือลดทอนคุณค่าลง แม้จะได้เงินมากสักเท่าไหร่ก็ไม่อยากทำ ซึ่งปัจจุบันนี้เขายอมรับว่าภาพลักษณ์มวยไทยถูกลดทอนลงมาก เพราะบางคนเห็นแก่เงินเล็กน้อย ทำให้ศักดิ์ศรีมวยไทยลดลง

“ถามว่าไม่คิดกลับไปชกหรือ ชกโชว์ได้เงินดีนะ ผมไม่ปฏิเสธ แต่ต้องดูเป็นกรณีไป อีกอย่างผมอยากลงแบบมีศักดิ์ศรีมากกว่านะ เพราะเกียรติยศที่เราสร้างไว้ มันไม่ใช่ง่ายนะ กว่าเราจะปีนไปถึงตรงนั้นได้ ผมเป็นแชมป์มาแล้ว"


ฮิเดโตชินากาตะนักฟุตบอลชื่อดังชาวญี่ปุ่น หนึ่งในลูกศิษย์ของครูเป็ด