วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

ไมอะ!..“บัวขาว”ยื่นเอกสารแจง ส่อแห้วชก“ไทยไฟต์”


บัวขาวซูเปอร์สตาร์มวยไทย ยื่นหนังสือผ่าน กกท.สุรินทร์แจ้งไม่สามารถไปให้ข้อมูลกับ คณะกรรมการกีฬามวยกรณีเจรจายุติขัดแย้งกับค่าย ป.ประมุขได้ จึงส่งเอกสารข้อมูลชี้แจงแทน ยันต้องฝึกซ้อมเก็บตัวฟิตร่างกายให้พร้อมขึ้นชก เผยได้ขึ้นชกไทยไฟต์หรือไม่อยู่ที่ผู้ใหญ่เจรจา หากไม่ได้ชกพร้อมทำใจรับได้ ระบุไม่คิดกลับค่าย ป.ประมุขอีก ตั้งใจจะอยู่สอนมวยให้เด็กๆที่บ้านเกิด
       
       วานนี้ (26 มี.ค.) เวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว บัญชาเมฆ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 14 บ้านสองหนอง ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ เจ้าของแชมป์มวยไทยไฟต์ 2011 และเจ้าของแชมป์ เค-วัน ประเทศญี่ปุ่น 2 สมัยได้เดินทางโดยรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ พร้อมด้วยนายทอง บุราคา ครูมวยคนแรกของบัวขาว และนายสมนึก พันธมาศ เพื่อนซ้อมมวยสมัยเด็กกับบัวขาวซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เดินมายังสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายในสนามกีฬากลางศรีณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อมายื่นหนังสือชี้แจงกรณีไม่สามารถเดินทางไปให้ข้อมูลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ในวันที่ 29 มี.ค.55 นี้ได้
       
หนังสือชี้แจงดังกล่าว ระบุใจความว่า เรียน ผู้อำนวยการคณะกรรมการกีฬามวย (นายทะเบียน) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยได้เชิญข้าพเจ้านายสมบัติ บัญชาเมฆ ไปให้ข้อมูลต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ในวันที่ 29 มี.ค.55 เวลา 13.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา (อาคาร 25 ชั้น) การกีฬาแห่งประเทศไทยนั้น ในการนี้ข้าพเจ้านายสมบัติ บัญชาเมฆ ไม่สามารถเดินทางไปให้ข้อมูลได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการเตรียมตัวฝึกซ้อม รักษาสภาพร่างกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ในการชกมวยครั้งต่อไป จึงขอส่งเอกสารข้อมูลชี้แจง กรณีที่เกี่ยวข้อง ผ่านการกีฬาแห่งประเทศไทย จ.สุรินทร์ แทน จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ลงชื่อนายสมบัติ บัญชาเมฆ โดยมีนายเจริญชัย สุวรรณศรี ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย จ.สุรินทร์ เป็นผู้มารับมอบหนังสือพร้อมจะส่งหนังสือชี้แจงของ บัวขาว ดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ตามที่บัวขาวประสงค์ ตามขั้นตอนต่อไป
       
       นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวว่า ตนมาที่ กกท.สุรินทร์ ในวันนี้เพื่อมายื่นหนังสือ ชี้แจงข้อมูลที่ทางคณะกรรมการกีฬามวย มีหนังสือมาถึงตน ตนมายื่นหนังสือให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดสุรินทร์ ชี้แจงว่า ตนไม่สามารถเดินทางไปชี้แจงกับคณะกรรมการกีฬามวยได้ เพราะต้องฝึกซ้อม ร่างกายให้พร้อมในการชกมวยและการเดินทางมีระยะทางเดินทางไกล
       
       ส่วนตนนั้นพร้อมที่จะขึ้นชกมวยไทยไฟต์ ในวันที่ 17 เม.ย. นี้ ที่ พัทยา จ.ชลบุรี โดยได้ฟิตร่างกายให้พร้อมและอยากขึ้นชกมวยไทยไฟต์เพราะตั้งใจจะชกมวยไทยให้ดีที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ เจรจากัน หากตกลงกันไม่ได้ ตนก็รับได้ ที่จะไม่ได้ชกไทยไฟต์
       
      
 "สำหรับการเดินทางออกจากค่ายมวย ป.ประมุข ตนมีความตั้งใจแล้ว และไม่คิดจะกลับเข้าค่าย มวย ป.ประมุขอีก ทุกวันนี้ มีความสบายใจมากขึ้น มีความอบอุ่นขึ้น ได้อยู่กับญาติพี่น้อง และตั้งใจจะสอนมวยไทยให้กับเด็กๆ ชาวจังหวัดสุรินทร์" บัวขาว กล่าว
       
       ด้านนายเจริญชัย สุวรรณศรี ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย จ.สุรินทร์ กล่าวว่า จะส่งหนังสือ ชี้แจงเหตุการไม่ไปให้ปากคำต่อ คณะกรรมการกีฬามวย ของบัวขาว ถึง นายเดช ใจกล้า ผู้อำนวยการคณะกรรมการกีฬามวย ซึ่งเป็นนายทะเบียนมวย ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเป็นการเจรจากัน เพื่อหาข้อยุติ โดยจะเป็นการเจรจากันครั้งละฝ่าย ขณะนี้ได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาหาข้อสรุปข้อขัดแย้งของค่ายมวย ป.ประมุข กับ นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ป.ประมุข
       
       “ผลจะออกมาอย่างไร ก็อยู่ที่ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน โดยบัวขาวได้ทำสัญญาชกมวย ไว้กับ ค่ายมวย ป.ประมุข ตั้งแต่ 2553 เป็นระยะเวลา 8 ปี ซึ่งเป็นมูลเหตุของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เมื่อบัวขาวไปชี้แจงด้วยตัวเองไม่ได้และส่งหนังสือการไปชี้แจงต่อคณะกรรมการกีฬามวย แทน ทาง กกท.สุรินทร์ ก็จะเร่งดำเนินการส่งหนังสือ ชี้แจงไปยัง ผู้อำนวยการคณะกรรมการกีฬามวยเป็นการเร่งด่วนต่อไปนายเจริญชัยกล่าว.




วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

ปาเกียวขู่พร้อมคว่ำมาร์เกวซในศึกรีไฟต์ครั้งที่3

 

 

สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงาน แมนนี่ ปาเกียวยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ได้ออกมาระบุว่าการชกกับ ฮวน มานูเอล มาร์เกวซ เป็นครั้งที่3ในเดือนพ.ย.นี้ จะตัดสินว่าใครกันแน่คือนักชกที่ดีกว่ากัน
โดยปาเกียวได้ชกกับมาร์เกวซมาแล้ว2ครั้งโดยในไฟต์แรกใเมื่อปี2004นั้นผลออกมาเสมอกัน และถัดมาอีก4ปีจะปาเกียวที่เอาชนะคะแนนแบบไม่เป็นเอกฉันท์ แต่มาร์เกวซได้ออกมายืนยันว่าเขาสมควรเป็นผู้ชนะทั้ง2ไฟต์  ปาเกียวได้กล่าวว่าผมจะต้องฝึกซ้อมให้หนักสำหรับไฟต์นี้และต้องโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุดและไฟต์นี้เองจะตอบทุกคำถามที่ค้างคาใจลงได้
สำหรับการชกในครั้งนี้จะเป็นการป้องกันแชมป์โลกของปาเกียวในรุ่นเวลเตอร์เวล ขององค์กรมวยโลก WBO ในพิกัด144ปอนด์ โดยจะจัดขึ้นที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ การ์เดน อารีนา ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐในวันที่ 12 พ.ย. ที่จะถึงนี้
ขณะเดียวกันมีรายงานระบุว่า บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์ของ ท็อปแรงก์ ต้นสังกัดของปาเกียว ได้เปิดเผยว่า เรายินยอมที่จะไม่จำกัดการสุ่มตรวจโด๊ป ที่ดำเนินการโดยองค์กรที่เป็นกลาง บอกตามตรงเราไม่เชื่อว่า ยูเอสเอดีเอ หน่วยงานต่อต้านสารกระตุ้นของสหรัฐ จะมีความน่าเชื่อถือพอ ถ้าฟลอยด์ โอเคกับเรา ทางเราก็น่าจะสามารถจัดศึกบิ๊กไฟต์ระหว่าง ปาเกียวกับฟลอยด์ได้ในปีหน้า

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ศึกมวยไทยพรีเมียร์ลีก 2 ก.ย.ที่ลองบีชนักชกดัง”บัวขาว ป.ประมุข”นำทีม

 ระเบิดศึก! มวยไทยพรีเมียร์ลีก (Muaythai Premier League) นัดแรกชกที่แคลสเตท ลองบีชนำทีมโดย บัวขาว ป.ประมุข เจ้าของฉายา”ดำดอทคอม”


"บิ๊กเหวียง"ทุ่ม 250 ล. จัดศึกมวยไทยพรีเมียร์ลีก


"บิ๊กเหวียง"จัดศึกมวยไทย ดังไกลระดับโลก



พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก จับมือ มร.คลิฟตัน บราวน์ ผู้บริหารบริษัท วอริเออร์ แคส โปรดักชัน จำกัด ทุ่มทุนสร้างกว่า 250 ล้านบาท จัดศึก "มวยไทยพรีเมียร์ลีก" หวังเผยแพร่กีฬามวยไทยให้ดังไกลทั่วโลก พร้อมชิงเงินรางวัล 1.5 ล้านบาท เริ่มประเดิมสนามแรกที่อเมริกา ในวันที่ 2 กันยายนนี้

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

โอ้ว! ขอให้สมพรปาก ออร์ติซโวจะทุบฟลอยด์ให้เละ

 
จัดไป




วิคตอร์ ออร์ทิซ ออกมาประกาศว่าจะขอเอาชนะน็อค ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ มวยเจ้าของสถิติไร้พ่ายให้ได้ โดยทั้งคู่มีโปรแกรมจะขึ้นฟาดปากกันในวันที่ 17 กันยายนนี้

ออร์ทิซบอกว่า “ผมจะทำลายเขาแบบยกต่อยกจนกว่าจะน็อคเอ้าท์ ผมคิดว่าเมย์เวเอร์ก็เคยแพ้มาแล้วแต่ไม่มีในสถิติ ทั้งโฆเซ่ หลุยส์ คาสติลโล่และออสการ์ เดอ ลา โฮย่า ต่างเคยชนะเขามาแล้ว”

เจ้าของเข็ดขัดแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวทของ WBC ชาวอเมริกากล่าวอีกว่า “เขาอาจจะชกดีที่น้ำหนัก 130 ปอนด์ แต่วันนี้มาต่อยกับผมที่น้ำหนัก 147 ปอนด์ เขาจบแน่”

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อำนาจ รื่นเริงไม่พอใจผลการคัดตัวอาจอำลาทีมชาติ


การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดประลองคัดเลือกตัวนักชกทีมชาติไทย ครั้งที่ 2 เพื่อเป็นตัวแทนไป “เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2011″ ที่อาเซอร์ไบจาน เดือนกันยายนนี้ ในการลุ้นโควตาไปต่อยโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งการประลองไฟต์ที่ 2 รุ่น 52 ก.ก. อำนาจ รื่นเริง ยังทำได้ดีกว่าดักต่อย ฉัตรชัย บุตรดี และในยกสุดท้าย ฉากหนีประคองตัวด้วยความมั่นใจ ขณะที่รุ่น 75 ก.ก. เป็นการชกไฟต์แรกระหว่าง สุริยา ปราสาทหินพิมาย กับ อังคาร ชมพูพวง

หลังจบการชกคณะกรรมการประกาศผลการชก 2 ไฟต์ เฉพาะรุ่น 52 ก.ก. ปรากฏว่า ไฟต์แรก ผู้ตัดสินให้ ฉัตรชัย ชนะ 3-0 และไฟต์ที่สอง ให้อำนาจชนะ 2-1 ทำให้เสมอกัน 1-1 ก่อนที่จะขึ้นชกไฟต์ตัดสินวันที่ 13 สิงหาคม

อำนาจกล่าวว่า มั่นใจว่าชนะขาด แถมยังชกดีกว่าไฟต์แรกด้วยซ้ำ แต่กลับชนะแค่ 2-1 รู้สึกไม่พอใจมาก เพราะเป็นการตัดสินเหมือนยึดเอาสไตล์ชกอาชีพเข้ามาตัดสินมวยสมัครเล่น ไฟต์ต่อไปคงไม่ชกแล้ว ยอมเสียสละให้น้องไปชกดีกว่า หลังจากนี้คงเก็บของกลับบ้านไปขายของดีกว่า

นายมนตรี ไชยพันธุ์ ประธานกรรมการมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การตัดสินดำเนินการตามกระบวนการทุกอย่าง โดยใช้ผู้ตัดสินกลาง สลับสับเปลี่ยนในทุกไฟต์ ซึ่งผลที่ออกมาถือว่าตอบคำถามสังคมได้ อำนาจจะไม่พอใจเป็นสิทธิของนักกีฬา แต่หากไม่มาคัดเลือก ก็ถือว่าทำผิดกติกา และ กกท.ต้องยึดกติกาเป็นหลัก

ต้อนหมูตามเคย? อารัมชี้ฟลอยด์แค่สั่งออร์ติซมาถลุงเล่น


รอดูละกันนะจ้ะ


บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์คู่บุญของแมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ออกมากล่าวถึงไฟต์การชกระหว่างฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ มวยไร้พ่ายชาวอเมริกากับวิคตอร์ ออร์ติซ มวยหนุ่มวัย 24 ปีเพื่อนร่วมชาติว่าฟลอยด์จะไล่ต้อนเอาชนะออร์ติซได้แบบไม่ยากเย็น โดยทั้งคู่จะขึ้นฟาดปากกันที่ลาสเวกัส วันที่ 17 กันยายนนี้

โปรโมเตอร์ชาวอเมริกากล่าวว่า “เด็กคนนี้ไม่มีประสบการณ์ในไฟต์ใหญ่ๆ มากนัก และผมจะบอกคุณในสิ่งที่ผมไม่ชอบเลยเพราะเขา(ออร์ติซ)ชอบถลำบ่อยๆ (lunge) เขาชกแบบพรวดพราดและเปิดช่องว่างมากไป เขาถูกส่งมาตามใบสั่งของฟลอยด์ ถ้าเมย์เวเธอร์แค่ชกไปเรื่อยๆ แบบขอให้ชนะเป็นพอ เขาก็จะชนะสบายๆ”

บ็อบยังกล่าวด้วยว่าไฟต์นี้อาจจะมีผลต่อไฟต์ปาเกียว-มาร์เกวซที่จะต่อยกกันในวันที่ 12 เดือนพฤศจิกายนด้วยว่า “ถ้าพวกเขาชกกันสนุกและแฟนมวยชอบ มันก็จะช่วยเราในวันที่ 12 พฤศจิกายน แต่ถ้าชกกันไม่สนุกมันจะส่งผลร้ายต่อเรา แฟนคาดหวังกับเกมการชกที่น่าตื่นเต้นแต่ถ้ามันไม่สนุก มันก็จะมีผลต่อไฟต์ถัดไป”

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มวยไทย การต่อสู้ที่คนทั้งโลกยกย่อง


         

"มวยไทย" เป็นศิลปการต่อสู้สุดยอดของโลก
ผมเชื่อว่า "เด็กไทย"ทุกคนมี"วิญญาน"มวยไทยสิงอยู่ เราสามารถ"ยกแข้งยกขา"ได้สูงถึงคอ ขณะที่"ฝรั่ง"พยายามแค่ไหนก็ยกขาได้แต่เอว
มวยไทยเป็น"ศิลปการต่อสู้"ชนิดเดียวในโลก ที่ใช"อวัยวะ"ทุกอย่างเป็น"อาวุธ" ทั้งมือ เท้า เข่า ศอก...กระทั่งหัว